Manager Online รายงานว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กับ “นิเคอิ” ในระหว่างเดินทางเยือนดเมืองฟุกุโอกะ ว่า ประเทศไทยปฏิรูปอุตสาหกรรมมานานกว่า 30 ปีแล้ว โดยเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเป็นหลัก แต่ขณะนี้ไทยต้องการยกระดับไปสู่การลงทุนไฮเทค โดยผ่านโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC
รองนายกฯสมคิด ระบุว่า เป็นเรื่องยากที่รัฐบาลทั่วไปจะวางรากฐานสำหรับโครงการระยะยาว เพราะนักการเมืองจะเตรียมการเลือกตั้งอยู่ตลอดเวลา แต่รัฐบาลทหารได้ใช้อำนาจผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และวางโรดแมปของประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไป
นายสมคิดระบุว่า โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกผ่านการพิจารณาจากรัฐสภาเป็นพระราชบัญญัติ ซึ่งจะรับประกันกับนักลงทุนว่า จะมีผลต่อไปถึงแม้รัฐบาลทหารจะพ้นอำนาจไปก็ตาม
รัฐบาลไทยตั้งเป้าดึงดูดเงินลงทุนอย่างน้อย 300,000ล้านบาทสำหรับโครงการ EEC โดยจะเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และผ่อนคลายกฎระเบียบในการลงทุน เช่น การถือครองที่ดิน, การอนุญาตทำงานของชาวต่างชาติและครอบครัว และสิทธิพิเศษทางภาษีอื่นๆ
รองนายกฯของไทย กล่าวว่า “EEC เป็นพื้นที่สำหรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เราต้องการอุตสาหกรรมที่ก้าวหน้า ไม่ใช้อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม โดยมี 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ, อวกาศ, หุ่นยนต์และจักรกลอัตโนมัติ โดยจะยกเว้นภาษีสูงสุด 15 ปี เพราะความร่วมมือระหว่างต่างชาติและไทยจะช่วยให้บริษัทของไทยพัฒนาตัวเองไปสู่อุตสาหกรรมไฮเทค”