ดอลลาร์อับเฉา

ดอลลาร์อับเฉา

โดย…ทนง ขันทอง

ขณะนี้มีการพูดกันมากถึงเรื่องเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีการอ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญ แนวโน้มข้างหน้าเงินดอลลาร์จะอับเฉาหรือไม่?

ค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นใน US Dollar Index อ่อนค่าลง -4.26% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา แต่ในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมาอ่อนค่าลง -6.36%

เมื่อเทียบค่าดอลลาร์กับทองคำ ภาพเด่นชัดขึ้นว่าดอลลาร์กำลังสูญเสียอำนาจซื้อ เมื่อตอนต้นปี ต้องใช้ 1,528 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อทองคำ 1 ออนซ์ แต่มาวันนี้ ต้องใช้ 2,028 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อทองคำจำนวนเท่าเดิม

สาเหตุหลักของการเสื่อมค่าของดอลลาร์มาจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ที่มีการเพิ่มปริมาณเงินในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวิกฤติปี 2008 เป็นต้นมาที่มีการพิมพ์เงินอย่างมหาศาล

งบดุลของเฟดเพิ่มจาก 870,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนสิงหาคม ปี 2007 มาอยู่ที่ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงต้นปี 2015

การเพิ่มงบดุลของเฟดทำให้ดอกเบี้ยต่ำ และตลาดการเงินมีสภาพคล่องสูง เพื่อช่วยดูแลสถานภาพของระบบธนาคาร และฐานะการคลังของรัฐบาลกลางที่มีการใช้จ่ายงบประมาณขาดดุล

หลังจากนั้น เฟดประกาศมีความพยายามที่จะปรับนโยบายการเงินสู่สภาพปกติ โดยมีการลดงบดุลลงผ่านการดึงดอลลาร์สหรัฐออกจากระบบ ทำให้งบดุลของเฟดลดลงเหลือ 3.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

เริ่มต้นในเดือนกันยายนปี 2019 งบดุลของเฟดเริ่มที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นมาใหม่ โดยในปัจจุบันนี้อยู่ระดับประมาณ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการพิมพ์เงินเพื่อดูแลระบบการเงิน และฐานะการคลังของรัฐบาลกลางที่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการดูแลเศรษฐกิจในวิกฤติโคโรนาไวรัส

นโยบายของเฟดทำให้ตลาดหุ้นบูม แต่มีผลทำให้วงจรของเครดิตไม่ได้เป็นไปตามกลไกของตลาดจากการถูกเฟดแทรกแซงไม่ให้ดอกเบี้ยปรับขึ้นตามวงจร อันเห็นได้จากยิลด์ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีได้ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 0.5% ในเวลานี้ ถือว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 149 ปีเลยทีเดียว

เงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 0.6% ทำให้ยิลด์ของพันธบัตรสหรัฐฯ ที่แท้จริง หรือหลังจากหักเงินเฟ้อแล้วติดลบ

จากปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ดอลลาร์สหรัฐถูกเทขายค่อนข้างที่จะรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา

มอร์แกน สแตนลีย์ ได้เรียนรายงานในวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ดอลลาร์สหรัฐที่อยู่ในภาวะตลาดหมีถูกขายมากเกินไป (oversold) ในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันโกลด์แมน แซคส์ ได้ชี้ว่า สถานภาพของการเป็นเงินสกุลหลักของโลกของดอลลาร์กำลังถูกสั่นคลอน