สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า โกลด์แมนแซคส์กรุ๊ป (Goldman Sachs Group) คาดว่าหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 100% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ในปี 2027 จากปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ 77% ของจีดีพี และจะทำให้ฐานะการคลังของสหรัฐฯย่ำแย่ที่สุดเท่าที่เคยประสบมา หรือ นับแต่ทศวรรษที่ 1940 และ 1990
โดยโกลด์แมนแซคส์คาดว่า นโยบายการคลังที่มุ่งกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลกลางต้องก่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นจะทำให้ภาระหนี้สินของรัฐบาลกลางสหรัฐฯเพิ่มขึ้น เมื่อรวมกับปัจจัยเสริมจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นแล้ว จะทำให้สหรัฐฯมีภาระดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่สูงกว่าในต้นทศวรรษที่ 1980 และ 1990
“นโยบายการคลังของสหรัฐฯกำลังเข้าสู่เขตแดนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน กล่าวคือ ในอดีต เมื่อเศรษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่ง แต่ภาระหนี้รัฐบาลเพิ่มขึ้น สภาคองเกรสจะตอบสนองด้วยการขึ้นภาษี และลดงบประมาณรายจ่าย แต่ในขณะนี้ ทุกอย่างกลับกัน” นายอเล็ก ฟิลิปส์ นักวิเคราะห์ที่โกลด์แมนแซคส์กล่าว