กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ)

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ)

Key Takeaway

  • ระดับมูลค่าตลาดจีน A-Shares ในตอนนี้เมื่อวัดจาก FW P/E 16.7 x สูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ระดับ 14 x อาจดู Premium แต่ยังเหมาะสมที่ท่านผู้ถือหน่วยลงทุนประสงค์จะลงทุนเพราะแม้ไม่ได้ถูกเท่าช่วงไตรมาส 1Q2020 แต่เป็นการมองตัวเลขในกรอบระยะเวลาหรือสถานการณ์ที่มีลักษณะเฉพาะ กล่าวคือตลาดตอนนี้เป็นห้วงเวลาที่บริษัทจดทะเบียนล้วนเผชิญกับการปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิลงจากสถานการณ์ COVID-19 ท่ามกลางการบริโภคในประเทศฟื้นตัวตั้งแต่ครึ่งปีหลังทำให้ได้รับการคาดหวังว่าเศรษฐกิจจีนขยายตัวได้ในอัตรา 3% ต่อปี และในปีหน้า ค.ศ. 2021 ผู้จัดการมองอัตราการเติบโตกำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียนระดับ 8-10% จากผลของ Low base ในปีนี้ ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ FW P/E multiple จะเทรดในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตและจากสภาพคล่องที่เพิ่มเติมเข้ามาในตลาด Onshore หลังการเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิดหุ้นจีนจำนวนมากเพื่อเป็นทางเลือกการออมการลงทุนระยะยาวให้กับคนจีน จากบลจ.สัญชาติจีนแผ่นดินใหญ่หลายแห่ง ตัวอย่าง Ping An ฯลฯ จากปัจจัยที่กล่าวมาจะเข้ามาสนับสนุนสภาพคล่องและกระแสเงินที่รอจ่อซื้อหุ้นจีน Onshore จากนักลงทุนสถาบันในประเทศ
  • นโยบายของไบเดนไม่ได้มีนัยสำคัญต่อนโยบายทางด้านต่างประเทศต่อจีนจากเดิม เพราะไม่ว่าพรรคไหนจะเข้ามาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศก็ไม่มีทางจะกลับมาเหมือนช่วงก่อนที่ทรัมป์จะเข้ามา จีนเข้าใจสถานการณ์ดีจึงหันมาสร้างนวัตกรรมและการบริโภคในประเทศของตัวเองขึ้นมา
  • เป็นการยากที่จะบอกได้ว่า MSCI จะพิจารณาเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีน A-Shares ในดัชนีเมื่อไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ อาทิ ก้าวของการเปิดเสรีทางการตลาด การยกเลิกข้อจำกัดด้านการลงทุน การเพิ่มโควตาการถือครองตราสารในตลาดเงินตลาดทุน ในเวลาเดียวกันพบนักลงทุนทางฝั่งยุโรป อเมริกา ต่างเข้ามาซื้อหุ้นจีนไว้ล่วงหน้าโดยที่ไม่ได้รีรอการเพิ่มน้ำหนักของหุ้นจีนในดัชนี MSCI EM
  • บัญชีมาร์จิ้นซื้อขายหลักทรัพย์ ไม่น่ากังวล โดย ณ ปัจจุบันทรงตัวอยู่ระดับ 10% ของปริมาณการซื้อขายหมุนเวียนหุ้นรายวัน นับตั้งแต่คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์จีน (CSRC) ออกโรงเตือน (Soft warning) ในเดือน ก.ค. ที่เคยแตะระดับ 20%
  • อุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์จีนที่อยู่ในกลุ่มผู้ให้บริการทางด้านสุขภาพ ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลภาครัฐ ส่วนที่เป็นเอกชนมีจำนวนน้อยโดยจะเป็นโรงพยาบาลที่มีลักษณะเฉพาะซึ่งถือว่าเป็นโอกาสสำหรับการลงทุนเพราะมีกำไรสุทธิเติบโตระดับ 30% และได้รับประโยชน์จากอำนาจซื้อของคนจีนที่ต้องการจ่ายเพื่อให้ตนเองได้รับการรักษาระดับพรีเมี่ยม ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตยาไบโอเทค มีจำนวนยาที่อยู่ในระยะทดลองเพิ่มขึ้นระดับ 28% ต่อปี จาก 744 โมเลกุล (ในปี 2017) เป็น 938 โมเลกุล (ในปี 2018) และ 1,200 โมเลกุล (ในปี 2019) ยาส่วนใหญ่ 49% อยู่ในการทดลองทางคลีนิคระยะแรก ยาดังกล่าวจะเข้าสู่การทดลองระยะสองและสามในอีก 3 ปี ทำให้คาดว่าจะมียานวัตกรรมได้รับการอนุมัติในอนาคต โดยสรุปโครงสร้างจะคล้ายกับสหรัฐฯที่มีองค์การอาหารและยา (FDA) เป็นผู้อนุมัติตัวยา โดย FDA จีนยอมรับกระบวนการที่สหรัฐฯใช้ในปี 2018
  • หากบริษัท Ant group ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท Alibaba กลับมา IPO ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ได้สำเร็จจะมีสัดส่วนประมาณ 0.50% ของดัชนี MSCI China A Shares การเลื่อนวัน IPO ออกไปไม่ได้ส่งผลต่อกองทุนโดยตรงเพราะหน่วยลงทุนของกองทุน Allianz China A Shares เพราะไม่ได้ลงทุนในบริษัท Alibaba ซึ่งจดทะเบียนในตลาดฮ่องกง ขณะที่หน่วยลงทุนของกองทุน Allianz All China Equity ได้รับผลกระทบเชิง Sentiment จากมุมมองของนักลงทุนรายย่อยในช่วงที่ผ่านมาเพราะนักลงทุนมองว่าบริษัทมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ Regulator ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่ชัดเจนว่าบริษัท Ant Group จะจดทะเบียนเมื่อไหร่ อาจทำให้เม็ดเงินที่รอซื้อหุ้น IPO หมุนไปลงทุนหุ้นเติบโตในกลุ่มเทคโนโลยีจีนก่อนก็เป็นได้

ความขัดแย้งทางการค้าที่ตึงเครียดต่อเนื่องทำให้บริษัทจีนที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดของสหรัฐฯ หันกลับมาจดทะเบียนในตลาดฮ่องกงเพราะต้องการลดความไม่แน่นอนของตัวเอง ซึ่งส่งผลดีเพราะเกือบทั้งหมดเป็นธุรกิจที่มีคุณภาพสูงซึ่งจะได้รับประโยชน์จากโครงสร้างระยะยาวที่เปลี่ยนแปลงไปของเศรษฐกิจจีน ในอีกมุมหนึ่งการที่บริษัทเหล่านี้หันกลับมาจดทะเบียนในบ้านเกิดของตัวเอง ก็อาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในประเทศทั้งรายย่อยและสถาบัน ที่ต้องการขยายกรอบการลงทุน

สำหรับกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ) มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ โดยจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนที่ออกโดยบริษัทจีนได้ทุกตลาด กองทุนได้มอบหมายให้ Allianz Global Investors Asia Pacific Limited เป็นผู้รับดำเนินการในต่างประเทศ (Outsourced Fund Manager)

ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2020 กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน มีรายละเอียดการลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุน Allianz China A Shares 43.57% และหน่วยลงทุนกองทุน Allianz All China Equity 35.83% ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในบริษัทรายตัว ได้แก่

สำหรับกระบวนการลงทุนของ Allianz Global Investor Fund – All China Equity and China A Shares ดังนี้

ดังนั้นหุ้น High Conviction ที่คัดสรรนั้นได้ผ่านกระบวนการ ดังนี้

  1. คัดสรรหลักทรัพย์จากปัจจัยสามด้านคือต้องเป็นทั้งหุ้นเติบโต (Growth) หุ้นคุณภาพ (Quality) และหุ้นที่มีระดับมูลค่าเหมาะสม (Valuation) เพื่อให้ได้มาซึ่งหลักทรัพย์ลงทุน 40-60 บริษัท
  2. ทีมงานวิจัยภาคสนาม (Grass roots research) ลงไปสำรวจบริษัทนั้นๆ ตั้งแต่แหล่งที่มาของรายได้ แหล่งที่มาของต้นทุน ทิศทางอุตสาหกรรม ทั้งจากผู้ประกอบการ ตัวแทนขาย ลูกค้า
  3. วิเคราะห์ติดตามความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง (Ongoing Basis) ว่าเป็นไปตามแนวทางการลงทุน (Client guideline) ความเสี่ยงจะถูกประเมินทั้งระดับพอร์ตโฟลิโอ ประเทศ อุตสาหกรรม สไตล์ และรายหลักทรัพย์ โดยใช้ตัวชี้วัดมาตรฐานเช่น Tracking Error, Sharpe Ratio, Information Ratio, Volatility และ Portfolio Beta

สัดส่วนการลงทุนกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน ณ วันที่ 30 ต.ค. 2020

สัดส่วนการลงทุนตามประเภทการลงทุน (% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ)

  • ตราสารหนี้ 0.48%
  • ตราสารทุน  96.38%
  • เงินฝาก/บัตรเงินฝาก 0.48%
  • อื่นๆ   3.14%

ตราสารที่มีการลงทุน 3 อันดับแรก (% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ):

  • Allianz China A Shares – PT    43.57%
  • Allianz Global Investors Fund – Allianz All China EQ – PT    35.83%
  • Alibaba Group Holdings    4.17%

ผลการดำเนินงานกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน ณ วันที่ 30 ต.ค. 2020

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต