โดย…ทนง ขันทอง
วันนี้เรามารู้ทำความรู้จักกับ Pictet Group กัน กับแนวนโยบายการลงทุนด้านความยั่งยืน (Sustainable Investing) ที่เป็นจุดเด่นของกลุ่มนี้
Pictet เป็นสถาบันการเงินที่เก่าแก่มีอายุมากกว่า 200 ปีของสวิตเซอร์แลนด์ มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเจนีวา มีการทำธุรกิจหลักด้านไพรเวต แบงกิ้ง และการให้บริการทางการเงิน นับได้ว่า Pictet เป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ โดยให้บริการทั้งในเรื่องการบริหารความมั่งคั่ง การบริหารหลักทรัพย์ และการให้บริการด้านทรัพย์สินให้กับทั้งลูกค้าที่เป็นบุคคลซึ่งมีรายได้สูง และลูกค้าที่เป็นสถาบัน
Pictet มีพนักงานทั้งสิ้น 4,600 คน รวมทั้งผู้จัดการด้านการลงทุนถึง 900 คน โดยมีสำนักงาน 28 แห่ง ในศูนย์กลางทางด้านการเงินของโลก ไม่ว่าจะเป็นเจนีวา ลักเซมเบิร์ก แนสซอ ฮ่องกง และสิงคโปร์ ในรายงานประจำปี 2019 Pictet Group มีทรัพย์สินภายใต้การบริหาร 576,000 ล้านฟรังก์สวิส
สำหรับ นโยบายการลงทุนด้านความยั่งยืน Pictet มองว่า ในอดีตคนทั่วไปอาจจะมองว่าเป็นตลาดที่เป็น niche คือตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่ในตอนนี้ การลงทุนด้านความยั่งยืนเป็นสิ่งที่นักลงทุนไม่สามารถที่จะมองข้ามไปได้
เมื่อไม่นานมานี้ America’s Business Roundtable ได้มีข้อสรุปว่า บริษัทต่างๆ ไม่สามารถที่จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นอย่างเดียวได้อีกต่อไป แต่ต้องให้ความสำคัญ และลงทุนในพนักงาน ปกป้องสิ่งแวดล้อม และมีจริยธรรมต่อคู่ค้า หรือซัพพลายเออร์ที่ทำธุรกิจด้วย
เรากำลังเข้ายุคที่จะสร้างความสมดุลในเรื่องจริยธรรม ทำให้ความต้องการด้านการบริการ และความรู้ด้านการลงทุนที่ยั่งยืนมีการขยายตัวอย่างมาก อันเห็นได้จากจำนวนกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนที่ให้ความสำคัญกับสิงแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) นับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสปีที่ผ่านมา การลงทุนด้านความยั่งยืนยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น เพราะว่าไม่เพียงแต่จะเป็นหนทางเดียวที่จะให้ผลตอบแทนที่ดี แต่จะเป็นอีกทางที่ช่วยลดความเสี่ยงในระยะยาวอีกด้วย
ในระดับโลก กองทุนด้านความยั่งยืนสามารถดึงดูดเม็ดเงินใหม่เข้ามาลงทุนได้ถึง 20,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2019 โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าจากปี 2018 ที่มีเม็ดเงินไหลเข้ามาเพียง 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการทำสำรวจเรื่องสัญญาณของความยั่งยืน หรือ Sustainable Signals ของมอร์แกน สแตนลีย์ ในปี 2019 พบว่า นักลงทุนเกือบ 85% มีความสนใจที่จะลงทุนด้านความยั่งยืน โดยอัตรานี้เพิ่มจาก 71% ในปี 2015
ตลอดระยะเวลา 2 ทศวรรษที่ผ่านมา Pictet ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านความยั่งยืนมาตลอดในการบริหารทรัพย์สิน ในปี 2000 Pictet ได้เปิดนโยบายการลงทุนในน้ำ ซึ่งเป็นประเภทแรกของการลงทุน ณ ปัจจุบัน Pictet มีการใช้บรรทัดฐานด้านความยั่งยืนถึง 80% ของการบริหารทั้งหมด
นักลงทุนจำนวนมากยิ่งขึ้นเริ่มที่จะเข้าใจว่า จะเข้าใจฐานะของบริษัทผ่านผลประกอบการทางการเงินอย่างเดียวไม่พอ เพราะว่าต้องดูองค์ประกอบรวมด้านจริยธรรม เนื่องจากในเมืองใหญ่มีแต่สิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ มหาสมุทรมีภัยจากมลภาวะ ความไม่เท่าเทียมกันทำให้เกิดปัญหาทางสังคม
คนรุ่นใหม่ ไม่เหมือนคนยุคเก่า จะให้ความสำคัญในความยั่งยืนมากขึ้น Sustainable Signals ทำวิจัยพบว่า 90% ของคนรุ่นใหม่ หรือกลุ่มมิลเลนเนียลให้ความสนใจกับการลงทุนที่ยั่งยืน ซึ่งจะมีผลในการเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมการลงทุน
ทั้งนี้ การลงทุนด้านความยั่งยืน ไม่ใช่ว่าผลตอบแทนจะได้มาน้อยกว่าการลงทุนโดยทั่วไป มอนิ่งสตาร์ พบว่า 73% ของดัชนี ESG ได้ผลตอบแทนมากกว่าดัชนีที่ไม่มี ESG ตั้งแต่ที่มีการสร้างดัชนีESGขึ้นมา
ความจริงแล้ว หุ้น ESG ผูกโยงกับแนวโน้มที่มีพลังของอนาคตคือเรื่องของความยั่งยืน การพัฒนาการของประชากร หรือเทคโนโลยี ซึ่งอาจจะเติบโตเร็วกว่าเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้นักลงทุนต่อไปจะอยู่กับการลงทุนแบบ ESG ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน และจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวหลังจากนั้น โดยไม่ประสบกับการขาดทุน
กล่าวโดยสรุปแล้ว การลงทุนในรูปแบบ ESG เป็นเรื่องของการใช้ความคิดระยะยาว และการมุ่งสู่ความเปลี่ยนแปลง โดยอิงอยู่บนความเชื่อมั่นที่มีเหตุผล โดยทั้ง 2 อย่างสามารถไปคู่กันได้