กระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศยังไงดี

กระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศยังไงดี

โดย…พริ้มพัชร จิรบวรพงศา, AFPTTM

ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนของเราทุกคน น่าจะมีการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์แห่งโลกอนาคต และถ้าหากตอนนี้เราลองสำรวจพอร์ตการลงทุนของตัวเอง ก็อาจพบว่า มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นต่างประเทศเยอะมาก จนอาจทำให้ภาพรวมของพอร์ตลงทุนเรามีความเสี่ยงสูงกว่าที่ควรจะเป็น

แม้ว่าเราจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า  “การจัดพอร์ตลงทุนที่ดี”  ต้องกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลายๆ ประเภท โดยจัดสัดส่วนลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมาย  ความเสี่ยงที่เรายอมรับได้  และระยะเวลาในการลงทุน  แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ใครๆ ก็อยากที่จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี จึงทำให้นักลงทุนมองหาโอกาสจากการลงทุนในหุ้น กลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่กำลังเติบโตตามเทรนด์โลก ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่อยู่ในตลาดหุ้นฝั่ง  Developed Market  อย่างสหรัฐฯ

แต่ถึงจะน่าสนใจหรือมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงมากแค่ไหน เราก็ต้องอย่าลืมว่า  การบริหารจัดการความเสี่ยงก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ดังนั้นเราจึงควรทบทวนพอร์ตลงทุนของตัวเองในตอนนี้ ว่ามีสัดส่วนลงทุนในหุ้นต่างประเทศมากเกินไปหรือเปล่า? ถ้ามีมากจนเกินไป ก็อยากให้พิจารณาปรับลดสัดส่วนลงให้เหมาะสมกับเป้าหมาย ความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ รวมถึงระยะเวลาในการลงทุนด้วย

โดยสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่กล่าวถึงนี้ นับรวมไปถึงหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศทั้งในตลาด Developed Market  และ Emerging Market ซึ่งเราควรปรับภาพรวมของสัดส่วนหุ้นให้เหมาะสม และหลังจากนั้นค่อยมาพิจารณาในรายละเอียดว่า เราลงทุนในหุ้นกลุ่มใดมากไปหรือเปล่า? โดยการกระจายความเสี่ยงที่ดี นอกเหนือจากกระจายสินทรัพย์ในการลงทุนแล้ว เราก็ควรที่จะกระจายความเสี่ยงด้านภูมิภาคด้วย ซึ่งเราสามารถกระจายการลงทุนไปในตลาดหุ้นฝั่ง Emerging Market อย่างไทย จีน รวมถึงเวียดนามก็นับว่ามีความน่าสนใจ

แม้ว่าผลตอบแทนอาจจะไม่หวือหวา  เท่ากับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรมฝั่งตลาด Developed Market  แต่ผลตอบแทนในภาพรวมของตลาด Emerging Market ก็นับว่า “มีความน่าสนใจ” ถึงจะมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีแนวโน้มและมีโอกาสที่จะเติบโต รวมถึงมีศักยภาพที่จะพัฒนาตัวเองต่อไปได้ในระยะยาวสอดคล้องไปกับเทรนด์ลงทุนแห่งโลกอนาคต

โดยสรุปก็คือ สำหรับผู้ลงทุนที่มีการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรม ขอให้ลองทบทวนปรับสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมาย  ความเสี่ยงที่เรายอมรับได้  รวมถึงระยะเวลาในการลงทุนให้เหมาะสม รวมถึงกระจายความเสี่ยงด้านภูมิภาคด้วย  โดยแนะนำให้พอร์ตการลงทุนมีทั้งหุ้นในตลาด Developed Market  และ Emerging Market   เพื่อให้พอร์ตของเรามีความเสี่ยงที่พอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนดีๆ จากทุกมุมโลก

สำหรับกองทุนบัวหลวง  มีกองทุนหุ้นต่างประเทศให้เลือกลงทุนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในตลาดฝั่ง Developed Market ตามเทรนด์โลกอนาคต อย่างเช่นกองทุน B-USALPHA, B-INNOTECH, B-GTO, B-FINTECH สำหรับตลาดฝั่ง  Emerging Market อย่างกองทุน B-CHINE-EQ และ B-VIETNAM  ซึ่งสำหรับนักลงทุนที่สนใจ   สามารถศึกษาข้อมูลกองทุนเพิ่มเติม  ก่อนตัดสินใจลงทุนได้ที่ www.bblam.co.th  หรือติดต่อได้ที่สาขา ธ.กรุงเทพ  รวมถึงตัวแทนจำหน่าย