By… ศรศักดิ สร้อยแสงจันทร์
BF Knowledge Center
สิ้นสุดชีวิตสมรส
การหย่าร้างเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวด ถึงแม้บางคู่จะพยายามปลอบใจบอกว่าเป็นจากกันโดยดีและยังมีความเข้าใจ ยังคงความเป็นเพื่อนกันได้ แต่เมื่อเลิกรากันแล้วก็มักจะยังคงมีบาดแผลในใจที่เจ็บปวดอยู่เสมอ และต่างฝ่ายมักชี้นิ้วโทษอีกฝ่ายว่าเป็นต้นเหตุของการหย่าร้าง
สิ่งที่ถูกคือแต่ละคนควรกลับไปทบทวนว่าจุดไหนเป็นที่มาที่ทำให้ชีวิตคู่เริ่มเบี่ยงเบนออกจากกัน เพื่อเป็นการตระหนักรู้ถึงข้อผิดพลาดของแต่ละฝ่าย และเก็บเป็นประสบการณ์ชีวิต เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนั้นในภายภาคหน้า
ความตายที่พรากชีวิตคู่
เมื่อชายหญิงสัญญาว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันตราบจนสิ้นลมหายใจ นั่นหมายความว่าหากใครคนหนึ่งพรากจากไป คนที่เหลืออยู่จะประสบความทุกข์ทรมานแสนสาหัส
ถ้าได้ครองคู่อยู่กันหลายสิบปี คนที่ยังอยู่จะพบกับความยากลำบากในการมีชีวิตเพียงลำพัง ความเจ็บปวดของความสูญเสียสามารถแปรเปลี่ยนเป็นการซาบซึ้งถึงคุณค่าของชีวิตที่ยังเหลืออยู่ เปรียบเหมือนกันการเปลี่ยนความหงุดหงิดที่รถติดเป็นการใช้เวลาที่รถติดฟังเพลงเพราะๆ หรือฟังรายการวิทยุที่ไม่มีเวลาฟังยามปกติ
การพลัดพรากจากคู่ชีวิตส่งผลรุนแรงต่อชีวิต แต่เมื่อความทุกข์บรรเทาลง จงหาโอกาสสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้ชีวิตเถิดครับ เช่น คบเพื่อนใหม่ หากิจกรรมใหม่ๆ ทำเพื่อสร้างชีวิตใหม่ และชีวิตใหม่ๆ ที่ดีขึ้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ถ้าเราไม่เริ่มต้นก้าวไปหามัน
ออกจากงาน
การออกจากงานอาจเป็นการออกไปเพื่อไปเริ่มงานที่ใหม่ เริ่มอาชีพใหม่ หรือเป็นการออกจากงานโดยไม่สมัครใจ เช่นไล่ออก ปลดออก กราบไหว้ขอร้องให้ออก หรือออกเพราะเกษียณอายุ
ผลกระทบต่อจิตใจอาจมีทั้งดีและไม่ดี เช่น คนที่ต้องออกเพราะถูกบังคับก็ต้องอยู่ในภาวะที่สับสนและเครียด กับความไม่แน่นอนของชีวิต ส่วนคนที่ได้งานใหม่หรืออาชีพใหม่ก็จะรู้สึกตื่นเต้น มีชีวิตชีวา แต่ก็ต้องสูญเสียสภาพแวดล้อมที่คุ้นชิน เช่น เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า ร้านอาหาร การเดินทาง หรือกระทั่งต้องเปลี่ยนที่อยู่
ความเปลี่ยวเหงาหรือโหยหาชีวิตเดิมๆ ก็อาจสร้างความทุกข์ในงานใหม่ได้เช่นกัน