เมื่อถึงเวลาต้องจากกัน (ตอนจบ)

เมื่อถึงเวลาต้องจากกัน (ตอนจบ)

By… ศรศักดิ สร้อยแสงจันทร์

BF Knowledge Center

การเปลี่ยนผ่านของชีวิตบนความสูญเสีย

การสูญเสียใดๆ ย่อมทำให้เป็นทุกข์  แต่ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไปนะครับ

เมื่อเราไม่สามารถถอยหลังกลับไปได้ เราต้องก้าวเดินต่อไป ไม่ว่าชีวิตการงาน หรือชีวิตส่วนตัว ความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียงานที่ชอบ สมบัติพัสถานที่รัก คนที่ผูกพัน สามารถแปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งชีวิตได้ทั้งนั้นละครับ  ถ้าเราก้าวผ่านความทุกข์จากความสูญเสียไปได้ เราจะเข้มแข็งและเติบโตขึ้น ทั้งยังพร้อมที่จะเผชิญกับความสูญเสียใดๆ ในอนาคตได้อย่างมีสติปัญญารู้เท่าทัน

ผมไม่เคยมีประสบการณ์ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต เคยแต่เสียญาติผู้ใหญ่ที่จากไปตามวัย หรืออกหักรักคุดตอนหนุ่มๆ ซึ่งเป็นความทุกข์เล็กๆ ที่ผ่านไปแบบไม่ยากเย็นอะไร

ที่ดูหนักหนาหน่อยพอเอามาแชร์ได้บ้างก็ตอนตกงานเมื่ออายุ 30 จากวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 40 โดยบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่ทำงานอยู่ถูกปิดไปพร้อมกับ 56 ไฟแนนซ์ ทำให้หางานใหม่ในวงการเดิมไม่ได้ เงินเก็บก็ไม่มีเพราะใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย กิน เที่ยว เล่นหุ้น จนมีแต่หนี้บัตรเครดิต

แต่ยังดีที่ไม่มีครอบครัว และยังอาศัยกับคุณพ่อที่ยังทำงานอยู่ ขอเงินพ่อใช้ได้บ้าง พยายามหางานในแวดวงอื่นก็ไม่ได้ผล สมัครสอบหน่วยราชการที่เกี่ยวกับการเงินก็ติดอันดับ 4 แต่ผ่านมาจนบัดนี้ไม่เห็นเรียกตัวไปสัมภาษณ์เลยครับ ก็เป็นทุกข์อยู่พอสมควร แต่ปลอบใจตัวเองว่ายังมีอะไรทำอยู่ คือเรียนปริญญาโทภาคค่ำคณะเศรษฐศาสตร์แถวท่าพระจันทร์

หลังจากตกงานได้ 2-3 เดือน ก็ถูกรีไทร์จากมหาวิทยาลัยเพราะเกรดต่ำ คราวนี้เริ่มเคว้งคว้าง สับสนกับชีวิต

ว่าผมจะไปทางไหนต่อดี ผมเริ่มทุกข์ใจมากขึ้นว่าทำไมเราต้องตกงาน แต่ในที่สุดก็ผ่านมาได้ เพราะไม่ยอมหยุดอยู่กับอดีตที่เรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้

ตกงานก็ไม่ใช่ความผิดเรา เรียนไม่ผ่านผิดตรงไหนก็วิเคราะห์หาสาเหตุเอา ผมไม่ยอมอยู่เฉย พยายามหาอะไรทำ

ต่อมาได้ไปสมัครอบรมมัคคุเทศก์ ไปทำงานเป็นไกด์ได้เงินไม่มากนักแต่พออยู่รอดได้ระยะหนึ่ง ผมได้พบเพื่อนใหม่ ผู้คนแปลกใหม่ รู้จักนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่างวัฒนธรรม แล้วขวนขวายอ่านหนังสือเพื่อกลับไปสอบปริญญาโทจนได้เข้าเรียนใหม่อีกรอบจนจบ จนได้กลับมาทำงานในแวดวงการเงินการลงทุนที่ตัวเองชอบในที่สุด

ประสบการณ์ชีวิตที่ได้คือ ความทุกข์ความผิดหวังเป็นเรื่องธรรมดาที่มันโคจรมาพบเราเป็นระยะๆ หนักบ้าง เบาบ้าง เราไม่ใช่พระอรหันต์ที่พ้นแล้วจากทุกข์  เราทุกข์ใจได้ แต่อย่าจมอยู่กับมัน บอกตัวเองให้ลุกขึ้น แล้วมองหาสิ่งใหม่ๆ ให้ได้ ถึงแม้จะไม่ดีเท่าเดิม แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เราก้าวเดินต่อไปได้ แล้วสิ่งที่เราปรารถนามันจะเข้ามาเองในที่สุด

สำหรับท่านที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยเกษียณ จงเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับความสูญเสียนานาประการที่จะเกิดขึ้นอย่างกล้าหาญด้วยจิตใจที่หนักแน่นเข้มแข็งรู้เท่าทัน

จงโบกมือลากับชีวิตที่ผ่านมาอย่างชื่นชม และเตรียมพร้อมที่ก้าวเข้าสู่ช่วงวัยเกษียณอย่างมีชีวิตชีวานะครับ