By…จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

การเสี่ยงโชค คือ เรื่องหอมหวานที่ใครหลายคนอยากลอง แต่หลายครั้งกลับถลำลึกเกินกว่าเงินในมือที่มีอยู่จะรับไหว

สลากกินแบ่งรัฐบาล หรือล็อตเตอรี่ ที่คนทั่วไปเรียกขานกันว่า “หวย” ก็เป็นหนึ่งในช่องทางเสี่ยงโชคที่เย้ายวนใจ ให้คนไทยได้ลุ้นรวยกัน ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน (ยกเว้นเดือนใดวันดังกล่าวตรงกับวันสำคัญ อาจจะเลื่อนวันออกสลากก่อนหรือหลังบ้าง แต่โดยรวม ก็เท่ากับ 1 ปี มีสลากกินแบ่งรัฐบาลออกประมาณ 24 งวด)

ลองนึกง่ายๆ ว่า ถ้าเดิมคุณเป็นนักเสี่ยงโชคตัวยง เคยซื้อหวยทุกงวด ขอแค่งวดละ 1 ใบก็ยังดี และซื้อมาในราคาหน้าหวยแบบไม่มีบวกๆ แต่..โชคลาภช่างน้อยนิด ไม่เคยถูกรางวัลเลยแม้แต่งวดเดียว ก็เท่ากับว่า ปีนั้น คุณเสียเงินไปกับการเสี่ยงโชคที่หลุดลอยแล้ว 1,920 บาท

บางคนใน 1 งวดไม่ได้หวังรวยจากหวยใบเดียว หวังได้รางวัลที่ 1 ซึ่งมีเงินรางวัล 6 ล้านบาทเท่านั้น จะลุ้นรวยทั้งที ขอซื้อเป็นชุด รวยกันระเบิดระเบ้อ 5 ใบ 30 ล้านบาทไปเลย

แต่….ถ้าไม่ถูกซื้อเป็นชุด เงินก็หายวับเป็นชุดเช่นกัน หรือแม้แต่หวยหาย เงินที่จะได้ก็กลายเป็นศูนย์

มาลองคิดกันเล่นๆ ว่า ถ้านำเงินก้อนนี้เปลี่ยนมาลงทุนแทน เช่น เก็บเงินจากการลดจำนวนการซื้อหวยหลายงวดรวมกัน แล้วลงทุนผ่านกองทุนรวม ให้เงินก้อนนี้ได้ทำงานแทนที่จะรอลุ้นโชคชะตาอย่างเดียว น่าจะดีกว่าไหม…

สำหรับคนรักการเสี่ยงโชค อาจรู้สึกว่า ขอฉันลุ้นบ้าง อดไม่ได้กับเรื่องหวยๆ แนะนำว่า สมมุติเดิมเคยซื้อ 2 ใบ อาจลดเหลือ 1 ใบ แล้วนำเงินก้อนที่เหลือที่ไม่ได้ซื้อ 1 ใบ 80 บาท เก็บรวมไว้สักครึ่งปีหรือทั้งปี

จากนั้นให้เงินก้อนนี้ไปลงทุนผ่านกองทุนรวมแทน แล้วลองทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทุกปี พอ 5 ปีผ่านไป เราจะได้เห็นภาพชัดขึ้น เมื่อเปรียบเทียบระหว่างเงิน 80 บาท 2 ก้อน ที่ก้อนหนึ่งไปซื้อหวย อีกก้อนรวมไว้ซื้อกองทุน ว่าเงินก้อนไหนมีโอกาสงอกเงยมากกว่ากัน จากเงินต้นปีละ 1,920 บาท รวม 5 ปี 9,600 บาท

สมมุติว่า เราเปลี่ยนจากการซื้อหวยปีละ 1,920 บาทไปซื้อกองทุนที่ลงทุนในตราสารทุน แล้วทำต่อเนื่องกัน 5 ปี เชื่อหรือไม่ว่าจากเงินต้น 9,600 บาท สามารถเติบโตกลายเป็นเงิน 10,281.54 บาท ได้เมื่อคำนวณจากดัชนีผลตอบแทนรวมตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ วันที่ 30 มี.ค. 2018 อัตราผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี ปีละ 3.43%

หากคุณเป็นคนมีโชคจากการเสี่ยง เป็นไปได้ว่า เงินก้อนที่ไปซื้อหวย 5 ปีถัดไปอาจได้รางวัลใหญ่ กลับมาสูงกว่าเงินก้อนที่ซื้อกองทุน แต่อย่าลืมว่า โอกาสในการถูกรางวัลแต่ละงวด ไม่ว่าจะเป็น รางวัลอะไรก็ตาม มีแค่ 1.4% เท่านั้น โดยโอกาสของการถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว มากที่สุดก็คือ 1 ใน 100 หรือ 1% จากนั้นก็ลดลงเรื่อยๆ เลขท้าย 3 ตัว โอกาสในการถูกคือ 1 ใน 500 และถ้าเป็นรางวัลที่ 1 โอกาสในการถูกคือ 1 ใน 1 ล้านเท่านั้น

ถ้าคุณคือ คนที่ไร้โชค จากการเสี่ยงอีก 5 ปี คุณจะเห็นชัดเจนขึ้นว่า เงินก้อนเดิมเพิ่มเติมผลตอบแทนได้ แล้วความมั่งคั่งก็ไม่ต้องรอแค่วันที่ 1 และ 16 ของเดือนอีกต่อไป

แค่ลองเปลี่ยนช่องทางให้เงินวัดดวง เป็นให้เงินทำงาน ความมั่งคั่งก็สร้างได้มากกว่าฝากความหวังกับคำว่า “พรุ่งนี้รวย” “วันนี้รวย” อย่างเดียว แต่สุดท้ายก็ไม่ถึงวันที่รวยเสียที