ในตลาดหุ้น ไม่ได้มีดีแค่หุ้น

ในตลาดหุ้น ไม่ได้มีดีแค่หุ้น

By…เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP®

BF Knowledge Center

ตลาดหุ้นในนิยามของแต่ละคนก็จะมีความเหมือนและมีความต่าง

เหมือนกันคือเป็นแหล่งลงทุน แหล่งหาผลตอบแทน

ต่างกันอาจจะระดับของความคิดหวังผลตอบแทนและทัศนคติมุมมองเชิงบวกเชิงลบ เป็นที่เก็งกำไร เป็นที่ลงทุน เป็นบ่อเงินบ่อทอง หรือกระทั่งเป็นบ่อนพนันของใครหลายคน

ซึ่งตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร ล้วนขึ้นกับว่าผู้ลงทุนเลือกที่จะให้เป็นอย่างไรมากกว่า

ในแง่ของการวางแผนการลงทุน ตลาดหุ้นคือแหล่งแสวงหาผลตอบแทนที่เป็นระบบ มีมาตรฐาน กฎกติกาชัดเจน และสามารถเติมเต็มความคาดหวังเรื่องโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าได้ในระยะยาว

แต่สิ่งที่คนจำนวนมากมองข้ามคือ แก่นที่แท้จริงของตลาดหุ้นอีกอย่างนั่นคือ ความเป็น “ตลาดรอง” ที่สำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ ที่ที่ทำให้เกิดสภาพคล่อง

เป็นที่สำหรับผู้ต้องการซื้อต้องการลงทุน สำหรับผู้ขายที่ต้องการปล่อยหลักทรัพย์ ซึ่งคุณสมบัตินี้ทำให้มีหลักทรัพย์หลายประเภทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้น นอกเหนือจากหุ้นของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ โดยเฉพาะ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จากมุมมองนี้เป็นสำคัญ

การที่กองทุน/หลักทรัพย์ประเภทการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์กลุ่มนี้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้น ทำให้คนจำนวนมาก เข้าใจผิดและเหมาเอาว่ามันจะผันผวน ขึ้นลงหวือหวา และมีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงๆ ได้เหมือนบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ซึ่งถ้าพิจารณาพื้นฐานทางธุรกิจและแหล่งที่มาของรายได้กองทุนต่างๆ เหล่านี้แล้วเรียกได้ว่าเป็นหนังคนละม้วน

กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และ REIT มีข้อจำกัดในแง่ของการเติบโตมากกว่าบริษัทจดทะเบียน แต่ขณะเดียวกันรูปแบบที่มาของรายได้ก็จะมีความแน่นอนกว่า ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าอาคาร พื้นที่ การเรียกเก็บค่าบริการการใช้ทรัพย์สิน รายได้จากการเข้าพักอาศัย ซึ่งกลุ่มนี้มักจะมีฐานลูกค้าที่แน่นอน มีสัญญาผูกพัน การเพิ่มจำนวนรายได้จึงไม่ง่าย แต่

โอกาสที่รายได้หดหายวูบวาบก็จะน้อยตามไปด้วย เรียกได้ว่า เป็นหลักทรัพย์ที่พอคาดการณ์ กำไร จากรายได้หักค่าใช้จ่ายได้ค่อนข้างง่าย ดังนั้นราคาในตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงไม่ควรหวือหวาแบบหุ้นบริษัทจดทะเบียน แต่จะขึ้นลงตามผลประกอบการณ์ และการเปรียบเทียบผลตอบแทนที่จ่ายออกมากับสิ่งที่ผู้ลงทุนคาดหวัง

ที่ผ่านมากลุ่มนี้ให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยจากเงินปันผลและเงินคืนแก่ผู้ลงทุนราวๆ 4-8% ต่อปีโดยประมาณ ขึ้นกับหลักทรัพย์ ความแน่นอนที่ผู้ลงทุนมอง รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด อย่างช่วงปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยจากการฝากเงิน ซื้อตราสารหนี้อยู่ในระดับต่ำ หลักทรัพย์กลุ่มนี้จึงเป็นที่ถูกใจของผู้ลงทุนที่อึดอัดกับผลตอบแทนของอัตราดอกเบี้ย โดยยอมที่จะเสี่ยงเพิ่มขึ้นแล้วขยับมาลงทุน

หลักทรัพย์กลุ่มนี้จึงเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่คาดหวังผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากธนาคารและตราสารหนี้ แต่ไม่ได้คาดหวังผลตอบแทนสูงๆ จากการเติบโตของกำไรจากกิจการของหุ้นจดทะเบียน ต้องการผลตอบแทนกลับคืนระหว่างการลงทุนเพราะมีการจ่ายเงินปันผลและเงินคืนแก่ผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ยอมรับความผันผวนของราคาใน “ตลาดรอง” ได้ เข้าใจข้อจำกัดของกระกระจุกตัวในการลงทุน เพราะหลักทรัพย์ตัวหนึ่ง จะลงทุนในกิจการหรือทรัพย์สินเพียง 1-2ประเภทเท่านั้นจึงมีความเสี่ยงในเรื่องการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ แต่ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีสำหรับคนที่อึดอัดกับอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน