ปัญหาทางใจกับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (ตอนที่1)

ปัญหาทางใจกับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (ตอนที่1)

By…เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP®

BF Knowledge Center

ปัจจุบันการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยหรือ Dollar Cost Averaging (DCA) เป็นที่นิยมมากขึ้น หลังจากผู้ลงทุนเข้าใจและเคยชินกับรูปแบบวิธีการ ประกอบกับการโหมประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงการพัฒนาของเทคโนโลยีทำให้การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยสะดวกขึ้น เพราะวิถีชีวิตผู้ลงทุนทุกวันนี้เคยชินกับความสะดวกสบายจากเทคโนโลยี

อะไรที่ทำง่ายใช้เวลาน้อยจึงเป็นที่นิยม การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยก็เช่นกัน เพราะเสียเวลาตั้งเงื่อนไขและทำรายการเพียงครั้งเดียวอย่างไรก็ตาม ก็มีผู้ลงทุนจำนวนไม่น้อยที่ ผิดหวังกับ DCA เพราะผลตอบแทนไม่ได้ดีต่อเนื่อง เพราะการขาดทุนระหว่างทาง ทำให้มองว่าการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยไม่ดี บางรายถึงกับหยุดการลงทุน หรือเปลี่ยนวิธีการไปเลยถ้าจะดูสาเหตุจริงๆ ที่ล้มเหลวจาก DCA ส่วนมากเกิดจากปัญหาทางใจแทบทั้งนั้นปัญหาอะไรบ้างที่ทำให้ผู้ลงทุนผิดหวังกับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย

1. ลงทุนไปตั้งนานแล้วยังขาดทุน เงินต้นยังติดลบ
จริงๆ แล้วการลงทุนมีความเสี่ยงทุกอย่างไม่ว่าจะใช้วิธีไหน จะลงทุนเพียงครั้งเดียวไปเลย หรือลงทุนแบบ DCA โดยเฉพาะการเลือกลงทุนในหุ้น ทั้งการลงทุนเองหรือผ่านกองทุน

แต่สาเหตุที่ผลขาดทุนจากวิธี DCA มีผลต่อจิตใจผู้ลงทุนมากกว่าการลงทุนเพียงครั้งเดียว เป็นเพราะการลงทุนเพียงครั้งเดียวเมื่อขาดทุนไปแล้ว ผู้ลงทุนจะคิดว่ามันเกิดไปแล้ว เงินลงไปแล้ว ส่วนใหญ่จะรอเวลาให้ราคากลับขึ้นมาจนเท่าทุนหรือมีกำไร จะมีบ้างก็น้อยกับคนที่ซื้อเพิ่มเพื่อถัวเฉลี่ยราคาต้นทุน

ตรงนี้เป็นผลทางด้านจิตใจล้วนๆ

เพราะการลงทุนเพียงครั้งเดียว แม้ว่าเงินจะลงทุนไปแล้วทำอะไรกับเงินก้อนนั้นไม่ได้ แต่ผู้ลงทุนจะคิดว่าตนเองยัง “เลือกได้” “มีอำนาจตัดสินใจ” ว่าจะลงทุนเพิ่มหรือไม่ลงทุนเพิ่ม แต่วิธี DCA  ผู้ลงทุนจะรู้สึกเหมือน “ถูกบังคับ” ให้ลงทุนต่อเนื่อง เติมเงินไปเรื่อยๆ ทุกเดือน แม้จะยังขาดทุน

ถ้าดูตามข้อเท็จจริง ผู้ลงทุนในกองทุนหุ้นย่อมต้องการผลกำไรสูงๆ ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาลงทุนยาวๆ ระหว่างทางราคาหน่วยลงทุน (NAV) ย่อมมีความผันผวน เป็นเรื่องปกติ ถ้าเรายังเชื่อมั่นในสิ่งที่ลงทุนอยู่ เชื่อมั่นผู้จัดการกองทุน หุ้นในกองทุนยังดีมีกำไรมีอนาคต สักวันหนึ่งราคาหุ้นก็จะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริง ตามกำไร ตามเงินปันผลที่หุ้นจ่ายออกมา

การลดลงของราคาระหว่างทางจึงเป็นเรื่องปกติของการลงทุน แต่ความรู้สึกขาดอำนาจตัดสินใจต่างหากที่บั่นทอนจิตใจ
หรือให้พูดแบบพฤติกรรมมนุษย์ วินัยการลงทุนของ DCA ทำให้เกิดความรู้สึกว่า “หมดอิสรภาพในการตัดสินใจ” อดทำอะไรตามใจตนเอง
ทั้งที่ในข้อเท็จจริง  การซื้อเฉลี่ยแบบ DCA ในวันที่ราคาลดลง เป็นเรื่องที่ควรพอใจมากกว่ากลุ้มใจ เพราะเท่ากับเราได้ถัวเฉลี่ยราคาต้นทุนให้ต่ำลง

2. ลงทุนไปก็ไม่เห็นอนาคต มีแต่จ่ายเงินออก ไม่มีเงินกลับมา
การซื้อกองทุนหุ้น คือการลงทุนระยะยาว ลงทุนเพื่ออนาคต เพื่อสร้างความมั่งคั่งและเก็บกินในวันข้างหน้า ดังนั้นผู้ที่จะลงทุนไม่ว่าจะวิธีใดก็ควรเข้าใจและยอมรับประเด็นเรื่องการสะสมเงินอนาคตตั้งแต่แรก และไม่ว่าจะลงทุนเพียงครั้งเดียว หรือ DCA ก็เกิดความรู้สึกว่ามองไม่เห็นอนาคต ไม่ได้อะไรกลับคืนสักทีได้เช่นกัน ถ้าผู้ลงทุนใจไม่แข็งพอกับการลงทุนระยะยาว

แม้ว่าปัญหานี้จะเกิดกับการลงทุนระยะยาวทุกวิธี แต่สาเหตุที่ DCA มักกลายเป็นผู้ร้ายในเรื่องนี้ก็เพราะ การลงทุนครั้งเดียว เงินของผู้ลงทุนได้ถูกใส่เข้าไปหมดแล้ว แต่วิธี DCA ผู้ลงทุนจะเห็นเงินที่ถูกดึงออกจากบัญชีทุกเดือน ทุกเดือน จนเกิดความรู้สึกว่าตนเอง “ถูกบังคับให้จ่ายไม่สิ้นสุด”  โดยไม่เห็นดอกผลสักที

เป็นเรื่องของจิตใจล้วนๆ