By…อรพรรณ บัวประชุม CFP®
BF Knowledge Center
“สุดๆ ไปเลย” วลีเด็ดที่แม่หญิงการะเกดชอบใช้ในเรื่องบุพเพสันนิวาส คงจะใช้เป็นวลีที่เหมาะที่สุดกับวงการแพทย์ในยุคปัจจุบัน ที่ทำให้คุณแม่ของเราเป็น Super Mom สาวสองพันปีที่จะได้อยู่กับพวกเรานานสุดๆ ไปเลย แต่การจะใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุขแบบมีคุณภาพ มีเงินใช้จ่ายวันละ 1,000 บาท หรือ เดือนละ 30,000 บาท ก็พอจะเป็นไปได้ในโลกปัจจุบัน แต่ถ้าจะต้องพึ่งพา “อาจารย์หมอ” แล้วล่ะก็ พวกออเจ้าทั้งหลาย คงจะไม่อยากคิดถึงตัวเลขที่จะตามมาเลยทีเดียว
นอกจากนี้ประวัติศาสตร์ยังบอกไว้ว่า การศึกษาของลูก ก็เป็นสิ่งจำเป็นมากด้วยเช่นกัน เพราะต้องใช้เบี้ยมิใช่น้อย ฉะนั้น หากออเจ้าเป็นคนหนึ่งที่ต้องดูแลทั้งคุณแม่และคุณลูกแล้ว ออเจ้าจงอย่าลืมเก็บเงินสำหรับเกษียณให้กับตัวออเจ้าเองด้วย
ทีนี้ลองมาดูกันซิว่า การทำ Super Plan สำหรับครอบครัวจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ออเจ้าลองมาคำนวณกัน
“ไม่ว่าออเจ้าจะคิดกระไร ออเจ้าก็หลีกหนีตัวเลขเหล่านี้ไม่พ้นหรอกหนา”
สำหรับเงินใช้จ่ายของคุณแม่ หากคุณแม่มีเงินเก็บเป็นเงินก้อน สามารถนำไปลงทุนในกองทุนที่มีหุ้นผสมอยู่ไม่เกิน 30% เพื่อให้เงินมีโอกาสงอกเงยเติบโตได้ทันเงินเฟ้อ ในกรณีที่ต้องการลงทุนในแต่ละเดือนสามารถแบ่งสัดส่วนการลงทุนโดยให้มีเงินส่วนหนึ่งเป็นเงินหมุนเวียนสำหรับใช้จ่าย และส่วนที่เหลือนำไปลงทุนเพื่อให้เงินมีโอกาสเติบโตได้มากขึ้น
ในส่วนของเงินสำหรับการศึกษาปริญญาโทของคุณลูก หากออเจ้าต้องการส่งลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ มีระยะเวลาลงทุน 8 ปีขึ้นไป สามารถนำเงินไปลงทุนโดยแบ่งสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงประมาณ 50% เพื่อให้เงินมีโอกาสเติบโตประมาณ 5% ต่อปี
ส่วนสุดท้ายที่เป็นส่วนสำคัญและไม่ควรลืม คือเงินสำหรับเกษียณของตัวออเจ้าเอง ซึ่งต้องเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ หากต้องการใช้จ่ายหลังเกษียณเดือนละ 30,000 บาท เป็นเวลา 30 ปี จะต้องลงทุนตั้งแต่ตอนนี้เป็นเวลา 20 ปี โดยสัดส่วนการลงทุนเน้นลงทุนในตราสารทุน 70% อสังหาริมทรัพย์/ทองคำ 20% และตราสารหนี้ 10% เฉลี่ยผลตอบแทนประมาณ 7% ต่อปี เมื่อได้เงินก้อนแล้ว จากนั้นต้องลงทุนให้ได้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 3% (ไม่น้อยกว่าเงินเฟ้อ) เพื่อไม่ให้เงินด้อยค่าลงในอนาคต
ดูๆ แล้ว การที่จะเป็น Super Save นั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเป็น Super Plan เพราะนอกจากแผนทางการเงินของครอบครัวแล้ว ยังต้องมีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินของครอบครัว การดูแลสุขภาพของทุกคนในครอบครัวก็เป็นอีกส่วนหนึ่งของ Super Plan เพราะหากสุขภาพไม่แข็งแรงแล้ว แผนต่างๆ อาจต้องสะดุดลงได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการปิดภาระด้านสุขภาพ การทำประกันสุขภาพให้กับตัวเองและครอบครัวก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญ
“อย่าเพิ่งเป็นลมนะเจ้าคะ” ถ้าหากออเจ้าเป็นแค่พนักงานกินเงินเดือนและมีสวัสดิการจากบริษัท คือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ก็สามารถใส่เงินสะสมส่วนของตัวเองเต็มที่คือ 15% ถึงแม้ว่าปัจจุบันบริษัทอาจจะส่งเงินสมทบน้อยกว่าก็ตาม เพราะในอนาคตเงินส่วนนี้ก็จะเป็นเงินสำหรับแผนเกษียณของออเจ้าเอง
นอกจากนี้ อย่าลืมส่องคันฉ่องดูนโยบายที่ลงทุนด้วยว่ามีนโยบายอย่างไร เพราะหากออเจ้าไม่มีเวลาติดตามการลงทุน การเลือกนโยบายลงทุนนานๆ ควรมีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากหน่อย เพราะหากมีแต่การลงทุนในตราสารหนี้ ระยะยาวอาจทำให้เงินสะสมเติบโตน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ ทำให้ค่าของเงินด้อยค่าสู้กับเงินเฟ้อไม่ได้ แต่อย่าไปเหล่คนข้างๆ นะเจ้าคะ ต้องส่องคันฉ่องดูว่าการลงทุนอะไรที่เหมาะกับตัวออเจ้าด้วย
การจะเป็น Super Mom ที่ดีให้กับครอบครัว ไม่ว่าจะกับคุณแม่ คุณลูก และตัวเองแล้ว นอกจากการเก็บออม (Super Save) ต้องมีการวางแผนที่ดี (Super Plan) เพื่อให้เป็นสุดยอดคุณแม่ (Super Mom) ที่สำคัญต้องลงมือทำทันที และทำอย่างสม่ำเสมอ (Dollar Cost Average : DCA) เพื่อไม่ให้แผนสะดุด ซ้ำยังต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนในเวลาที่เหมาะสม เพราะเมื่ออายุออเจ้ามากขึ้น การยอมรับความเสี่ยงย่อมลดลง การปรับเปลี่ยนการลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสมตามระยะเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้การลงทุนสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งใจได้ และเป็น Super Mom อย่างสมบูรณ์ของครอบครัว รู้อย่างนี้แล้ว รีบลงมือทำนะเจ้าคะ เดี๋ยวจะไม่ทันการเจ้าค่ะ