หลังครบ 1 ปีกับการยกเลิกธนบัตรอินเดีย (ต่อ)

นโยบายยกเลิกธนบัตรของรัฐบาลโมดี้ในช่วง 1 ปีเต็มที่ผ่านมาอาจจะทำให้เศรษฐกิจมีการชะลอตัวลงบ้าง แต่ตลาดหุ้นอินเดียเดินหน้าไปในทิศทางขาขึ้น

ดัชนี Nifty 50 Index ซึ่งเป็นเบนช์มาร์คของ National Stock Exchange ของอินเดียทะยานสูงขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

Nilesh Shah กรรมการผู้จัดการของ Kotak Mutual Fund ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้าที่มีการใช้นโยบายยกเลิกธนบัตรเก่าเพื่อแลกธนบัตรใหม่เพื่อแก้ปัญหาการเลี่ยงภาษี หรือตลาดมืด คนอินเดียส่วนมากเก็บเงินเอาไว้ที่บ้าน ซุกใต้หมอน หรือใต้เตียง แต่หลังจากที่มีการใช้นโยบายยกเลิกธนบัตรเก่า คนอินเดียเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงพฤฒิกรรมด้วยการโยกเงินสดเข้าไปในกองทุนรวมต่างๆ ทำให้กองทุนรวมมีการเจริญเติบโต และมีผลทำให้มีเม็ดเงินใหม่ๆ ไหลเข้าตลาดหุ้น

เขาบอกว่า ผลกระทบอีกประการหนึ่งของนโยบายยกเลิกธนบัตรคือทำให้คนอินเดียเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงิน และตลาดการเงินมากยิ่งขึ้น โดยที่พวกเขาได้เรียนรู้ว่าการลงทุนในกองทุนรวมช่วยเพิ่มสภาพคล่อง และให้ผลตอบแทนโดยที่นักลงทุนไม่ต้องกังวลใจอะไรมาก

The Financial Times รายงานในบทความชื่อ “India’s stock market learns to live without foreigners” ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2017 ว่า นโยบายยกเลิกธนบัตรมีส่วนช่วยให้ตลาดหุ้นอินเดียมีการเติบโตขึ้น เพราะว่านโยบายนี้บังคับให้คนอินเดียที่เคยเก็บแต่เงินสด เอาธนบัตรเก่ามาแลกที่แบงก์ มีผลทำให้มีเงินฝากใหม่ 2.8-4.3 ล้านล้านรูปี (43,000-66,000 ล้านดอลลาร์) ไหลเข้าสู่ระบบเงินฝากในธนาคาร

เงินฝากเหล่านี้ไหลเข้าสู่กองทุนรวมหุ้นอีกต่อหนึ่ง ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ อุตสาหกรรมกองทุนรวมของอินเดียมีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิ 2.4 ล้านล้านรูปี เทียบกับการไหลออกสุทธิ 1.2 ล้านล้านรูปีในระยะเวลาเดียวกันของปี 2016