By….จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
การท่องเที่ยวเป็นแรงสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และข่าวดีของปีนี้ก็คือ รัฐบาลจัดบิ๊กโปรโมชั่นประกาศกันออกมาตั้งแต่เนิ่นๆ ว่า ปีนี้ให้นำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวที่ไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยวหลัก รวมแล้ว 55 จังหวัด ไปลดหย่อนภาษีได้ตลอดทั้งปี ทั้งผู้มีเงินได้ต้องเสียภาษีที่ไปเที่ยวกันเอง และบริษัท ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ไปจัดอบรมสัมมนาในพื้นที่เหล่านี้
ที่สำคัญ ล่าสุด ครม. ก็เพิ่งอนุมัติปรับปรุงมาตรการลดหย่อนนี้ โดยเพิ่มเติมให้การพักโฮมสเตย์ ที่พักที่ไม่ใช่โรงแรมก็ลดหย่อนภาษีได้ จากเดิมที่ให้เฉพาะโรงแรมที่จดทะเบียนตามกฎหมายเพียงอย่างเดียว ทำให้การเสาะหาที่พักเมืองรองเพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
แม้เวลานี้จะเข้าสู่เดือนที่ 8 ของปี และมีเวลาเหลือให้เที่ยวลดหย่อนภาษีกันอีกแค่ 4 เดือนกว่าๆ แต่ใครที่เพิ่งรู้ตอนนี้ หรือรู้ตั้งแต่ต้นปี แต่ลืมไปเสียสนิท ก็ยังใช้สิทธินี้ทัน และถ้ายังนึกไม่ออกตอนนี้ว่าแล้วจะไปเที่ยวที่ไหนดี วันนี้เรามีตัวช่วยมาแนะนำ
ตัวช่วยที่ว่านี้ก็คือ วันที่ 22-26 ส.ค. นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดงาน “เทศกาลท่องเที่ยวเมืองรอง” ครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “กล้าให้ลอง…มหัศจรรย์ 55 เมืองรอง ลองไปแล้วจะรู้” ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ดังนั้นใครที่วางแผนอยากใช้สิทธิลดหย่อนเที่ยวเมืองรองอยู่แล้วแต่ยังหาสถานที่ไปไม่ได้ ก็สามารถไปตามหาจากในงานนี้ได้
นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. ระบุว่า ในงานนี้จะรวมประสบการณ์ความมหัศจรรย์ของ 55 เมืองรองไว้ในงานเดียว ซึ่งใครที่มาเดินในงานก็จะได้สัมผัสกับวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตท้องถิ่น 5 ภาค
ตัวอย่างจุดเด่นๆ ในงาน ก็เช่น พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราชจำลอง จังหวัดมุกดาหาร สลากย้อมหนึ่งเดียวในโลก จังหวัดลำพูน ตื่นตากับประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบเสมือนจริงในรูปแบบ Immersive Storytelling ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยี AR นำทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์เสมือนหลุดไปอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวนั้นจริงๆ
ที่สำคัญก็คือหากไปเลือกซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวเมืองรองในงานนี้ ครบ 2,000 บาท ก็จะได้สิทธิลุ้นแพ็กเกจท่องเที่ยว ตั๋วเครื่องบิน ที่พักฟรี มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท พร้อมมีโปรโมชั่นนาทีทองตั๋วเครื่องบิน-ที่พักราคา 100 บาทเท่านั้น ส่วนอีกประเด็นที่ทุกคนจะได้แน่นอนคือ หากซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวในงานก็จะนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้มูลค่าสูงสุด 15,000 บาทตามนโยบายรัฐบาล
หรือใครที่ตั้งใจว่า จะไปตามล่าหาแรงบันดาลใจ แต่ยังไม่ตั้งใจซื้อแพ็กเกจใดๆ ในงาน ก็สามารถไปดาวน์โหลดข้อมูลผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ดในงาน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนเส้นทางท่องเที่ยวต่อไปก็ได้
อย่างไรก็ตาม หากใครไปงานนี้ไม่ทัน ก็ยังมีอีกมหกรรมท่องเที่ยวที่สามารถไปเดินเสาะหาแพ็กเกจท่องเที่ยวเพื่อร่วมรับสิทธิลดหย่อนภาษีได้ นั่นก็คือ งานไทยเที่ยวไทยแฟร์ ครั้งที่ 48 วันที่ 30 ส.ค.-2 ก.ย. นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เช่นเดียวกัน ซึ่งครั้งนี้จัดภายใต้แนวคิด เที่ยวนี้วัดใจ ใครแฟร์กว่ากัน! คุ้มกว่า ถูกกว่า และฟินกว่า กับมหกรรมท่องเที่ยวที่ส่งความสุขสนุกทั่วไทย โดยจัดเต็มพื้นที่กว่า 1,300 บูธ มีผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท สายการบิน ทัวร์ รถเช่า สวนน้ำ ภัตตาคาร และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมานำเสนอโปรโมชั่น
ในงานนี้จะมีทั้งผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งจังหวัดท่องเที่ยวหลักและรองเข้ามาร่วม ดังนั้นหากใครต้องการไปเสาะหาการท่องเที่ยวลดหย่อนภาษี ก็คงจะต้องตรวจสอบรายชื่อจังหวัดกันให้ดีๆ ก่อนว่า เป็นจังหวัดที่เข้าข่ายจังหวัดรองที่ได้รับสิทธิลดหย่อนหรือไม่ก่อนที่จะซื้อแพ็กเกจ แต่ถ้าใครไม่ได้ตั้งใจจะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวอยู่แล้ว ก็เลือกเดินดูแพ็กเกจกันได้ตามสบาย
ขณะเดียวกันภายในงานนี้ มีการจัดงานย่อย ไทยประชุมไทย ประชุมเมืองรอง ลดหย่อนภาษีได้ นำเสนอแพ็กเกจ โปรโมชั่นสำหรับกลุ่มประชุมสัมมนา โดยองค์กรที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมได้ที่ www.dmicemartthailand.com
เอาเป็นว่า ใครใคร่เที่ยวก็ลองไปตามหาแรงบันดาลใจ หาโปรโมชั่นที่คุ้มค่าดูตามงานเหล่านี้ แต่ก่อนไปเที่ยว อย่าลืมเช็คเงินในกระเป๋าสตางค์ดีๆ ก่อนว่า มีเงินออม เงินสำรองเผื่อฉุกเฉินกันไว้หรือยัง ถ้ามีแล้ว หรือแบ่งสัดส่วน กันส่วนหนึ่งสะสมไว้เพื่อท่องเที่ยวเรียบร้อยแล้วก็ลุยได้เลย