ผ่านไปแล้ว 2 เดือนนับตั้งแต่วันเริ่มจัดตั้งกองทุน B-FUTURE ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ตลาดหุ้นโลกเกิดความผันผวนจากความตึงเครียดในประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะจีน ที่ส่งผลกระทบให้เกิดวิกฤตในตลาดเกิดใหม่ ที่มีดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล มีอัตราเงินเฟ้อที่สูง ส่งผลกระทบต่อค่าเงินและ Sentiment ของตลาดในภูมิภาค รวมไปถึงการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐที่ก่อให้เกิดความกังวลว่าตลาดหุ้นอาจเกิดการปรับฐาน

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นที่อยู่ในฝั่งประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Market) ให้ผลตอบแทนที่มากกว่าตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างเห็นได้ค่อนข้างชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดัชนี S&P 500 ปรับเพิ่มขึ้นมาแล้วกว่า 5% YTD ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งต่อเนื่องและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตได้ในระดับสูงตามสภาวะเศรษฐกิจ

ด้วยกองทุนยังคงอยู่ในช่วงการสร้างพอร์ตโฟลิโอรวมถึงผู้จัดการกองทุนมีความระมัดระวังในการลงทุน ดังนั้น ผู้จัดการกองทุนจึงได้ตัดสินใจที่จะรักษาระดับของเงินสดไว้ในระดับที่ค่อนข้างสูง เพื่อรอดูสถานการณ์ความผันผวนของตลาด และเพื่อรอจังหวะที่จะเข้าซื้อหากมูลค่าของหุ้นลงมาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดยสัดส่วนการลงทุนของกองทุน B-FUTURE ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2018 เป็นดังแผนภาพด้านล่าง

บลจ. บัวหลวงเชื่อมั่นว่าความผันผวนของตลาดในระยะสั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อ Theme การลงทุนในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการพัฒนาของเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ เพื่อช่วยให้การดำรงชีวิตในอนาคตมีความสะดวกสบายมากขึ้น รวมไปถึงพลังของการบริโภคโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริโภคในเอเชียที่โครงสร้างทางด้านประชากรเอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว รวมถึงแนวโน้มใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นและส่งผลบวกต่อการบริโภคและการลงทุน ทั้งการขยายตัวของสังคมเมือง (Urbanization) และ ความต้องการที่จะบริโภคในสินค้าหรือบริการที่ในระดับราคาที่สูงและมีคุณค่ามากขึ้น (Premiumization)

สำหรับประเด็นความกังวลทางด้านสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ยังส่งผลกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก นอกจากนี้แล้วในตลาดทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ทำให้ในระยะสั้นอาจจะมีการผันผวนของผลตอบแทน ซึ่งปัจจุบันมองว่าตลาดมีการรับรู้ผลจากสงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ระดับหนึ่ง พร้อมทั้งราคาหุ้นบางตัวได้ปรับลดลงมาสู่ระดับที่น่าสนใจในการเข้าไปลงทุน จึงเป็นโอกาสในการเข้าไปเฟ้นหาหุ้น ที่มีงบการเงินแข็งแกร่ง มีผลประกอบการที่ดี เพื่อเข้าไปลงทุน เพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุนในระยะยาว

ตัวอย่างหุ้นที่กองทุน B-FUTURE ถือครอง

Micron Technology ผู้ผลิตอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำหรับใช้กับคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ มือถือ แทบเล็ต และ USB Storage โดย Micron ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาของนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ การวิเคราะห์ Big Data ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นของ Micron ได้รับผลกระทบจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าและราคาขายที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ความต้องการในการพัฒนาทางด้านปัญญาประดิษฐ์และการใช้ Smart Phone ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะช่วยเสริมอุปสงค์ให้กับ Micron ได้ในอนาคต

TESLA ผู้ผลิตและออกแบบรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง โดยเป็นผู้นำในการคิดค้นพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous vehicles) การจัดเก็บพลังงานแบตเตอรี่เพื่อใช้ในครัวเรือนและภาคธุริจ โดย TESLA ได้นำเอาความสามารถของ AI เข้ามาปรับใช้ในทุกระบวนการของการผลิตและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แม้ ณ ปัจจุบัน ราคาหุ้นของ TESLA จะได้รับผลกระทบจากกรณีที่ ก.ล.ต. สหรัฐ ยื่นฟ้อง Elon Musk ประธานกรรมการบริหารและ CEO ของ TESLA ในข้อหาปั่นราคาหุ้น แต่ด้วยแนวโน้มการพัฒนาทางด้านนวัตกรรม การขยายโรงงานไปยังจีน รวมถึงการผลิตและการส่งมอบรถที่กลับมาเป็นไปตามแผน จะช่วยผลักดันทั้งเรื่องอุปสงค์และความสามารถในการทำกำไรในอนาคตของบริษัทได้

NVIDIA ผู้พัฒนาและผลิตหน่วยประมวลผลกราฟฟิก (Graphic Processing Unit: GPU) ขยายจากการประมวลผลเกมส์คอมพิวเตอร์ สู่การนำ GPU ไปใช้ในการพัฒนาของนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ และด้วยอนาคตของการพัฒนาเรื่อง Deep Learning, Machine Learning และปัญญาประดิษฐ์ในทุกอุตสาหกรรมส่งให้ความต้องการใช้ GPU ของ NVIDIA มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งด้วยสมรรถภาพที่เหนือกว่าและความต้องการของผู้บริโภคจะส่งผลเกมส์และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่รองรับการใช้งาน GPU ของ NVIDIA เพิ่มขึ้นเช่นกัน

China Mobile ผู้นำทางด้านการให้บริการทางด้านเครือข่ายสื่อสารทั้งทางด้านเสียง ข้อความ และข้อมูลทั้งในจีนและฮ่องกง รวมถึงเป็นผู้พัฒนา Application ทางด้านความบันเทิงต่าง เช่น เกมส์ วิดิโอ เพลง เป็นต้น โดยบริษัทได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและสัดส่วนของใช้ Smart Phone ของประชากรจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Galaxy Entertainment Group เป็น Holding Company ถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินการเกี่ยวกับคาสิโน และความบันเทิง และรีสอร์ทในมาเก๊า ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเป็นธุรกิจที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ