รายงานข่าวจากบีบีซีระบุว่า เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา แสดงความยินดีหลังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ทั้งหมด 15 ชาติ มีมติเป็นเอกฉันท์รับรองมาตรการคว่ำบาตรใหม่ที่รุนแรงยิ่งขึ้นต่อเกาหลีเหนือเพื่อตอบโต้การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีป หรือไอซีบีเอ็ม
ทั้งนี้มติดังกล่าวยังได้รับการรับรองจากรัสเซียและจีน ชาติพันธมิตรคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือด้วย ซึ่งมาตรการคว่ำบาตรใหม่นี้จะส่งผลให้สินค้านำเข้าประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงของเกาหลีเหนือลดลงถึง 90%
นางนิกกี ฮาลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็น กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่แสดงให้เกาหลีเหนือประจักษ์อย่างพร้อมเพรียง ว่าการท้าทายต่อไปมีแต่จะนำไปสู่การโดนลงโทษและโดดเดี่ยว พร้อมยังเปรียบเทียบเกาหลีเหนือว่าเป็น “ตัวอย่างที่น่าเศร้าของชาติที่ชั่วร้ายในโลกยุคใหม่”
สำหรับรายละเอียดของมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่นี้ได้รับการนำเสนอโดยสหรัฐฯ มีเป้าหมายจำกัดสินค้าที่เกาหลีเหนือนำเข้า โดยปริมาณผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเหลือ 5 แสนบาร์เรลต่อปี และน้ำมันดิบไม่เกิน 4 ล้านบาร์เรลต่อปี