By…จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
การเรียนรู้ด้วยการลงมือทำ จะทำให้เราเข้าใจในเรื่องนั้นๆ ได้ดีขึ้น เรื่องเงินๆ ทองๆ ก็เช่นกัน ถ้าสนใจเรียนรู้เรื่องการออมและลงทุน ต้องลองปฏิบัติจริงจึงจะเข้าใจอย่างแท้จริง และนำชีวิตไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้
ด้วยเหตุนี้ มหาวิทยาลัยต่างๆ จึงมีความสนใจที่จะทำให้นักศึกษาของตัวเองได้เติมเต็มความรู้เรื่องการออมและลงทุนให้ลึกซึ้งขึ้น ก่อนที่จะออกไปเผชิญโลกกว้างวัยทำงาน โดยที่ผ่านมา ทีม BF Knowledge Center และทีมงานกองทุนบัวหลวงเข้าไปจัดกิจกรรมเวิร์คชอป ให้ความรู้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างที่ไปนั้น ก็เก็บแง่คิดดีๆ จากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยมาฝากน้องๆ นักศึกษากัน
อาจารย์อภิเชษฐ์ ไชยวุฒิ อาจารย์ประจำภาคการเงินและการธนาคาร คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงความคิดเห็นว่า ถึงแม้มหาวิทยาลัยจะมีวิชา การเรียนการสอนที่เกี่ยวข้องเรื่องการออมและลงทุนอยู่แล้ว แต่ในห้องเรียนไม่ได้ให้ความรู้แบบเฉพาะเจาะจงเรื่องกองทุนรวม ดังนั้น การมีเวิร์คชอปที่ทำให้นักศึกษาเรียนรู้เรื่องกองทุนรวมในเชิงลึกมากขึ้น เข้าใจว่า กองทุนรวมมีกี่ประเภท ได้ทดลองวางแผนลงทุน และเผชิญสถานการณ์สมมติต่างๆ ที่ส่งผลต่อการลงทุนก็จะทำให้นักศึกษาเข้าใจเรื่องนี้ดีขึ้น
อาจารย์อภิเชษฐ์ แสดงความคิดเห็นต่อว่า นักศึกษายุคใหม่นั้นตื่นตัวเรื่องการออมและลงทุนมากขึ้น เพียงแต่จากมุมมองของอาจารย์แล้ว นักศึกษาอาจจะยังรู้จักและเข้าใจกองทุนรวมน้อยอยู่ จึงอยากให้นักศึกษาเข้าใจเรื่องราวของกองทุนรวมมากขึ้น เพราะถือเป็นทางเลือกการออม การลงทุนหนึ่งที่ตอบโจทย์กับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือไม่เก่งเรื่องการลงทุนในหุ้นสามัญ หรือหุ้นกู้เอง
นอกจากนี้ กองทุนรวมมีหลากหลายประเภทให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น กองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ หรือสินทรัพย์ทางเลือก และเป็นเครื่องมือที่ช่วยกระจายความเสี่ยงลงทุน รักษาผลตอบแทนได้ หากใครยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนเองที่แน่นพอ กองทุนรวมก็เป็นทางเลือกที่ดี
อาจารย์ประจำภาคการเงินและการธนาคาร กล่าวต่อว่า โดยส่วนตัวแล้ว ก็ลงทุนผ่านกองทุนรวมเช่นกัน เพราะไม่ต้องการซื้อขายหุ้นเอง สำหรับการซื้อกองทุน จะช่วยตอบโจทย์ของตัวเองด้านการเน้นรักษาผลตอบแทนที่ดีกว่าฝากเงินไว้ในธนาคารเฉยๆ ได้ ขณะเดียวกัน การซื้อกองทุนรวม เพียงมีเงิน 500-1,000 บาท ก็เริ่มลงทุนได้แล้ว ต่างจากการซื้อขายหุ้นที่ต้องซื้อขั้นต่ำ 100 หุ้น ซึ่งในกรณีที่หุ้นนั้นมีราคาแพง ก็อาจจะมีเงินไม่เพียงพอซื้อได้
อาจารย์ราเมศวร์ สดใส อาจารย์ประจำสาขาการบัญชีและการเงิน คณะการจัดการและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า มหาวิทยาลัยบูรพามีหลักสูตรที่สอนนักศึกษาให้รู้จักเครื่องมือลงทุนต่างๆ อยู่แล้ว เพียงแต่ในการเรียนการสอน ไม่ได้ลงรายละเอียดลึกซึ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ดังนั้น การมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาจัดเวิร์คชอปให้นักศึกษาโดยตรง จึงช่วยให้นักศึกษาได้เห็นภาพของกองทุนรวมที่ชัดเจนขึ้น ทำให้เรียนรู้ว่า ทางเลือกของการลงทุนมีหลากหลาย ได้ทำความเข้าใจกับตัวเองว่า เหมาะสมกับการลงทุนเอง หรือลงทุนผ่านกองทุนรวม
อาจารย์ราเมศวร์ ยังกล่าวอีกว่า อยากฝากถึงนักศึกษา ไม่ว่าจะเรียนอยู่ในสาขาการเงินหรือสาขาอื่นๆ ว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย การออมและลงทุนจึงเป็นเรื่องจำเป็นต่อชีวิตมาก ซึ่งนักศึกษาในรุ่นนี้น่าจะเคยเห็นตัวอย่างของคนรุ่นก่อนที่เกษียณอายุแบบไม่มีการวางแผนไว้ จนกลายเป็นภาระของลูกหลาน เพราะไม่มีเงินใช้จ่ายมาแล้ว ดังนั้น ก็อยากให้คนรุ่นใหม่วางแผนอนาคตให้ดี เก็บออมและลงทุนระยะยาวเพื่อใช้ชีวิตในวัยเกษียณอย่างมีคุณภาพด้วย