‘All Gen Enjoy’ ลงทุนผ่านกองทุนรวมอย่างไร ให้ตรงใจทุกเจนเนอเรชั่น

‘All Gen Enjoy’ ลงทุนผ่านกองทุนรวมอย่างไร ให้ตรงใจทุกเจนเนอเรชั่น

‘All Gen Enjoy’ ลงทุนผ่านกองทุนรวมอย่างไร ให้ตรงใจทุกเจนเนอเรชั่น

คำอธิบายเกี่ยวกับ All Gen  

เจนเนอเรชั่นกับการลงทุนมีความเกี่ยวเนื่องกัน แม้จะดูเหมือนไม่เกี่ยว แต่ก็เกี่ยว  เรามีความเชื่อว่าคนที่ผ่านประสบการณ์แตกต่างกันมีมุมมองชีวิตที่แตกต่างกัน ก็จะเลือกลงทุนแตกต่างกัน

อย่างเช่น คนในยุคเบบี้ บูมเมอร์ หรือยุคหลังสงคราม ประเทศเพิ่งฟื้นฟู วิธีคิดของคนยุคนั้นคืออยากจะสร้างครอบครัว สร้างเนื้อสร้างตัว ถือเป็นจุดสำคัญของความคิด สิ่งที่จะเป็นองค์ประกอบของเขาคือ ขยัน อดทน

ต่อมาคือ เจนเนอเรชั่น เอ็กซ์ ซึ่งเกิดในยุคของการพัฒนา ต่อยอด วิธีคิดของเขาก็อาจได้รับคำสั่งสอนจากรุ่นคุณตา คุณยาย กลุ่มนี้ยังขยัน อดทนอยู่ และมีความจงรักภักดี (loyalty) กับผลิตภัณฑ์สูง

ขณะที่ เจนเนอเรชั่น วาย เกิดในยุคที่มีความเปลี่ยนแปลงมาก ค่อนข้างผันผวน เวลามองอะไร อาจจะไม่มองระยะยาว เพราะการเปลี่ยนแปลงเร็ว หากมองระยะยาวมากอาจจะยึดติดเกินไป

คนทั้ง 3 เจนเนอเรชั่นนี้ เวลาที่ประสบการณ์ต่างกัน วิธีคิดต่างกัน การลงทุนก็ต่างกัน

อย่างคนที่เป็นเบบี้ บูมเมอร์ เวลาลงทุนอาจจะมองความมั่นคง มากกว่าการเติบโต  เพราะชีวิตเขาก่อร่างสร้างตัวมา อาจต้องพยายามรักษา และในยุคที่เขาเติบโตมามีเครื่องมือทางการเงินไม่มาก ดังนั้นจึงคิดได้ว่า เวลาได้เงินมาก็นำเงินไปฝาก หรือซื้อที่ดิน ซื้อทองคำ มีการเก็บออมและมองระยะยาว

สำหรับคนเจนเนอเรชั่น เอ็กซ์ มีเครื่องมือมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องซื้อที่ดินหรือทองคำเหมือนคนเบบี้ บูมเมอร์ อาจจะเริ่มลงทุนในหุ้นบ้างแล้ว และกองทุนรวมก็เกิดมาในยุคที่คนเจนเนอเรชั่น เอ็กซ์ เริ่มโต ดังนั้นพอจะสะสมฐานะผ่านเครื่องมือทางการเงินได้

ส่วนคนเจนเนอเรชั่น วาย เกิดมาพร้อมเครื่องมือทางการเงินทุกอย่างที่มีเพียบพร้อมแล้ว เพียงแต่ว่าใจของเขาอาจจะไม่พร้อม

จะเห็นได้ว่าพวกเขามีวิธีคิดต่างกัน ยกตัวอย่างคนอายุ 30 ปี วันนี้ กับคนอายุ 30 ปี เมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว อายุอาจเท่ากันแต่วิธีคิดต่างกัน เมื่อก่อนเจนเนอเรชั่น เอ็กซ์ สิ่งที่ผู้ชายคิดแรกๆ คือ มีเงินเดือนแล้วอยากมีรถยนต์ มีบ้าน บางคนก็อยากมีบ้าน แล้วค่อยมีรถยนต์ แต่คนเจนเนอเรชั่น วาย พอเริ่มมีรายได้ คิดอยากไปเที่ยวก่อน และบ้านอาจไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่เป็นคอนโดมิเนียม เพราะการอยู่คอนโดมิเนียมมีความยืดหยุ่น สามารถย้ายที่ได้ง่ายกว่าบ้าน

เมื่อคน 2 เจนเนอเรชั่น มีวิธีคิดต่างกัน กระทบอย่างไรกับการลงทุน ก็ขอตอบว่ากระทบ โดยเจนเนอเรชั่น เอ็กซ์ มองระยะยาวหน่อย ก็จะค่อยๆ สะสมความมั่งคั่งไป แต่มีรายได้บ้าง แต่เด็กรุ่นหลัง คนเจนเนอเรชั่น วาย หรือ แซด วิธีคิดอาจจะไม่มองเช่นนั้น โดยมองว่า ฉันจะรวยเร็ว อาจจะลงทุนหุ้นไม่ใช่เพียงในประเทศ แต่ลงทุนหุ้นต่างประเทศด้วย

กองทุนรวมกับเจนเนอเรชั่นสัมพันธ์กันอย่างไร ?

เมื่อคนในเจนเนอเรชั่นต่างกัน มีมุมมองต่างกัน เลือกต่างกัน เราอาจจะต้องการสร้างความมั่งคั่งเหมือนกัน คืออยากรวยทั้งคู่ แต่วิธีการลงทุนก็จะแตกต่างกัน เจนเนอเรชั่นเอ็กซ์ ขึ้นไปถึงเบบี้ บูมเมอร์ อาจจะลงทุนหุ้น แต่น้อยหน่อย และสนใจเฉพาะหุ้นในประเทศ ยังไม่สนใจหุ้นต่างประเทศ ส่วนเจนเนอเรชั่น วาย หรือ แซด รู้สึกคุ้นเคย ถ้าบอกว่าจะไปลงทุนหุ้นเทคโนโลยีจะรู้สึกสนใจ แต่ถ้าเป็นเจนก่อนหน้าอาจจะสนใจ แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจลงทุนเพราะรู้สึกว่าไกลตัว

กองทุนรวมจึงสัมพันธ์กับเจเนอเรชั่น เพราะมีทางเลือกให้หลากหลาย ตอบสนองแนวทางการลงทุนที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้อย่างไร ถ้าคนอยากได้การลงทุนแบบให้รายได้ประจำก็มีการลงทุนในตราสารหนี้ (Fix income) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Reit) หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หากต้องการจะเติบโตด้านมูลค่าเพิ่ม ก็ลงทุนในหุ้นได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือบางทีอาจมองลงทุนเพียงหุ้นไทยไม่พอแล้ว อยากลงทุนบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกก็ไปได้ เราสามารถผสมผสานได้ตามความต้องการของแต่ละเจนเนอเรชั่น

Enjoy ที่กองทุนบัวหลวงหมายถึงคืออะไร ?

สำหรับ Enjoy ก็พูดถึงความสุข สนุกสนาน และที่สำคัญต้องมีเวลาด้วย ถ้าเราสามารถทำให้ชีวิตของเราให้มีความสุข สนุกสนาน และมีเวลาจัดการกับชีวิตได้อย่างราบรื่น ก็ถือว่าเรา Enjoy

All gen enjoy ของกองทุนบัวหลวงจึงหมายถึงเรามีผลิตภัณฑ์ทางการเงินกองทุนรวมให้คนในทุกเจนเนอเรชั่นได้เลือกผสมผสานให้เหมาะกับตัวเอง ต้องการไม่ให้เงินต้นหาย รักษาเงินต้นไว้ให้มากก็มี อยากได้รายได้ประจำสม่ำเสมอก็มี หรืออยากจะเติบโตก็มี เรามีทั้งลงทุนในประเทศและต่างประเทศ

เมื่อมีเช่นนี้จึงทำให้เรามีโอกาสไปถึงเป้าหมายทางการเงิน คือ มีเงิน มีฐานะดีขึ้น ก็น่าจะมีความสุข นอกจากนี้เรายังมีเวลา เพราะเราไม่ต้องทำเอง ก็ให้ผู้จัดการกองทุนซึ่งเป็นมืออาชีพ มีเวลาทุ่มเทแรงกายแรงใจทำให้เรา

นอกจากนี้เราอาจตั้งเป้าหมายไม่ใช่แค่ความสุขของเราคนเดียว แต่ตั้งเป้าหมายให้คนที่เรารักได้ด้วย เช่น ตั้งเป้าหมายให้ลูก มีเงินทุนการศึกษาไว้ให้ลูกเรียนต่อต่างประเทศได้ ตั้งเป้าหมายสำหรับตัวเองเพื่อเที่ยวรอบโลกเมื่อเกษียณอายุ

โดยรวมแล้วการเริ่มลงทุนในกองทุนรวมนั้นง่ายมาก เนื่องจากกองทุนรวมออกแบบให้คนทั่วไปเริ่มลงทุนได้ด้วยเงินไม่มาก วันนี้เราสามารถเริ่มลงทุนกับกองทุนรวมได้จากเงินเริ่มต้นเพียง 500 บาทเท่านั้น ส่วนคนที่มีเงินลงทุนมาก จะลงทุนทั้งก้อนก็ได้ หรือหากไม่ต้องการลงทุนทั้งก้อนทีเดียว ก็สามารถลงทุนค่อยเป็นค่อยไป เฉลี่ยลงทุนทุกเดือนก็ได้ เราก็มีทางเลือกให้มากทีเดียวหากสนใจลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับข้อคิดสุดท้ายที่อยากฝากไว้ก็คือ การลงทุนโดยเฉพาะในกองทุนรวม “ไม่ต้องเก่ง แต่ขอให้คิดเป็น” คือรู้ว่าฉันต้องลงทุนนะ ไม่เช่นนั้นเงินก็ไม่ได้งอกเงย

“ไม่ต้องรู้มาก แต่ขอให้เข้าใจ” คือเราไม่จำเป็นต้องรู้แบบผู้จัดการกองทุน แต่ขอให้เข้าใจว่าการลงทุนมีความเสี่ยงและผลตอบแทน ความเสี่ยงมาก ผลตอบแทนที่คาดหวังก็จะมาก แต่ถ้าไม่อยากเสี่ยงมาก ผลตอบแทนก็อาจจะน้อยหน่อย

“ไม่ต้องรอพร้อม เพราะเวลาไม่รอใคร” หลายคนบอกต้องมีเงินเยอะๆ ก่อน รอพร้อมถึงจะลงทุน ไม่ควร ไม่ต้องรอพร้อม ให้ลงทุนได้เลย

ที่สำคัญที่สุดคือ “ไม่ต้องเชื่อใคร ขอให้ลงมือทำ” เพราะเมื่อฟังเข้าใจทุกอย่าง แต่ถ้าเกิดเราไม่ลงมือทำ  เป้าหมายทางการเงินเราก็ไปไม่ถึง ชีวิตที่เราหวังว่าจะ Enjoy ก็ไปไม่ถึงเสียที