เจาะเทคนิคการออมดีๆ ของคนรุ่นใหม่

เจาะเทคนิคการออมดีๆ ของคนรุ่นใหม่

คลิกที่ภาพเพื่อรับชม

 

ทีมงานกองทุนบัวหลวงมีโอกาสร่วมลงพื้นที่มหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง และธนาคารกรุงเทพ ภายใต้โครงการ The Stock Master University ในระหว่างกิจกรรมครั้งนี้ เราลองสอบถามเทคนิคที่น่าสนใจเกี่ยวกับการออมเงินของน้องๆ นักศึกษามหาวิทยาลัยบูรพามาฝากกัน เผื่อใครมองว่า ดี ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้

เจ้าของเทคนิค มีชื่อว่า “ธนวัฒน์ สัตยวงศ์” นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาการเงิน คณะการจัดการและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยบูรพา

น้องธนวัฒน์ ระบุว่า เทคนิคการออม คือ เมื่อได้เงินค่าขนมมา 100% เขาจะหักเพื่อเก็บออมก่อนเลย 25% ส่วนอีก 75% จะเหลือไว้ใช้จ่ายทั้งเดือน แต่ถ้าเกิดเงินที่ใช้จ่ายไม่เพียงพอจริงๆ  ก็จะนำเงินเก็บมาใช้ โดยมีข้อแม้ว่า จะต้องมีอัตราดอกเบี้ยจ่ายคืนให้เงินเก็บของตัวเองในอัตราเดือนละ 10%

เมื่อถามว่า ทำไมเราควรเก็บออม ธนวัฒน์ ระบุว่า คนส่วนใหญ่ใช้เงินกันไม่เป็น ต่อให้หาเงินมาได้แค่ไหนก็หมดไปกับค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และสิ่งของที่อยากได้ จนกระทั่งลืมไปว่า เราหาเงินมาเพื่ออะไร เราลืมคิดไปว่า เราต้องวางแผนการเงินอย่างไร เราไม่ได้มองไปถึงอนาคตว่า จะมีบุตรกี่คน หรือถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินทำให้เราไม่มีงานทำ เราก็จะไม่มีเงินเก็บ ซึ่งความน่ากลัวของการไม่มีเงินเก็บและเงินหมดไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้ชีวิตของเราลำบาก นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของเงินเฟ้อทำให้มูลค่าเงินที่มีลดลง ดังนั้น ยิ่งโตขึ้น เราควรยิ่งต้องเก็บเงินให้มากขึ้น

น้องธนวัฒน์ มองว่า กองทุนรวมเป็นวิธีการเก็บออมที่ง่ายที่สุด ซึ่งใครหลายคนอาจจะเข้าใจไปเองว่า กองทุนรวมเป็นเรื่องซับซ้อน แต่ที่จริงแล้วไม่ได้ซับซ้อนมาก เพราะกองทุนรวมแต่ละกองจะมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลเงินที่เราจ่ายเพื่อซื้อหน่วยลงทุนเข้าไป

ถ้าเราเทียบกับการออมเงินในสถาบันการเงินทั่วไป ผ่านบัญชีเงินฝากประจำ และบัญชีออมทรัพย์ ธนวัฒน์ เห็นว่า กองทุนรวมมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า และหากมองว่า ต้องใช้เงินจำนวนมากลงทุนในกองทุน ก็ไม่เป็นความจริง เพราะสามารถใช้เงิน 500 บาท หรือ 1,000 บาทลงทุนได้ ซึ่งถ้าทยอยลงทุนด้วยเงินจำนวนนี้เท่าๆ กันทุกเดือน ในอนาคตก็สามารถมีเงินเก็บหลักล้านบาทได้

หลังจากถามนักศึกษากันแล้ว คราวนี้ ทีมงานกองทุนบัวหลวง เลยลองไปสอบถาม คุณเมทินี สุพรรณดี ผู้จัดการ สาขาบางแสน ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับคนในพื้นที่จังหวัดชลบุรีกันบ้างว่า คนในพื้นที่นี้สนใจเรื่องการออม การลงทุนอย่างไรบ้าง

คุณเมทินี เล่าว่า ลูกค้าส่วนใหญ่จากเดิมเคยเก็บเงินไว้ในบัญชีสะสมทรัพย์ หรือฝากประจำอย่างเดียว ก็เริ่มแบ่งเงินมาลงทุนในกองทุนที่มีสภาพคล่องสูง เช่น กองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี หรือเงินบางส่วนที่ยังไม่ได้ใช้ก็จะนำไปไว้ใน กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัสต่างๆ ที่ได้ผลตอบแทนดีกว่าการฝากเงินไว้ในบัญชีเงินฝากธรรมดา

ขณะที่ น้องๆ นักศึกษาให้ความสนใจมากกับการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นหรือกองทุนรวมตราสารหนี้ ซึ่งธนาคารกรุงเทพ ก็อยากฝากถึงน้องๆ ว่า หากสนใจลงทุนแล้ว ไม่ยากเลย เพราะเริ่มลงทุนนั้นใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียว และเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 500 บาท ก็สามารถเริ่มลงทุนได้แล้ว โดยน้องๆ สามารถเดินมาหาพี่ๆ ที่สาขาธนาคารกรุงเทพ เพื่อให้คำแนะนำการลงทุนก่อนได้

เมื่อได้เห็นเทคนิคดีๆ ของน้องนักศึกษา พร้อมทั้งเห็นแล้วว่า การเริ่มต้นลงทุนผ่านกองทุนรวมนั้นไม่ได้ยากเลย คราวนี้ก็ต้องอยู่ที่การลงมือทำของทุกคนแล้ว เริ่มตั้งแต่วันนี้ด้วยการเก็บออมอย่างมีวินัย และแบ่งเงินไว้ลงทุน ซึ่งถ้าสนใจลงทุนกับกองทุนบัวหลวง ก็สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของกองทุนทั้งหมด ได้ทางเว็บไซต์ bblam.co.th หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน BF Mobile Application เพื่อติดตามข่าวสารต่างๆ ประกอบการลงทุนได้