สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ IATA เผยว่า จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางทางอากาศทั่วโลกในปีที่ผ่านมา เติบโตชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 2018 แต่ก็ยังเติบโตอยู่
ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPKs) ทั่วโลกในปี 2019 เพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบกับปี 2018 ซึ่งเคยเติบโต 7.3% นับเป็นปีแรกตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2009 ที่ความต้องการเดินทางของผู้โดยสารเติบโตต่ำกว่าแนวโน้มการเติบโตระยะยาวซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5.5% ต่อปี ขณะที่กำลังการบรรทุกผู้โดยสารทั้งปี 2019 ไต่ระดับขึ้นมา 3.4% อัตราบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 0.7% สู่ระดับสูงสุดที่เคยทำมา โดยอยู่ที่ 82.6% จากปี 2018 อยู่ที่ 81.9%
เดือน ธ.ค. 2019 ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร เพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2018 โดยตัวเลขนี้ถือว่าดีขึ้นมาแล้วจากเดือน พ.ย. ซึ่งเติบโต 3.3% เป็นผลจากความต้องการเดินทางในอเมริกาเหนือที่ยังแข็งแกร่งอยู่
Alexandre de Juniac ผู้อำนวยการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IATA กล่าวว่า สายการบินรักษาการเติบโตได้ดีในปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความท้าทายจำนวนมาก เช่น เศรษฐกิจที่เติบโตชะลอตัวลง กิจกรรมการค้าของโลกที่อ่อนแอ ปัญหาการเมือง ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งมีผลกระทบต่อความต้องการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีเรื่องการจัดการกับกำลังการบรรทุกที่มี และผลกระทบจากการที่เครื่องบินโบอิ้ง รุ่น 737 แม็กซ์ ต้องจอดอยู่กับภาคพื้น รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมด้วย
เมื่อแยกเป็นการเดินทางระหว่างประเทศและภายในประเทศ พบว่า จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศปี 2019 เติบโต 4.1% จากปี 2018 ลดลงจากระดับการเติบโตในปี 2018 ซึ่งอยู่ที่ 7.1% กำลังการบรรทุกเพิ่มขึ้น 3% และอัตราบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 0.8% มาอยู่ที่ 82% ส่วนจำนวนผู้โดยสารเดินทางในประเทศ เพิ่มขึ้น 4.5% ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 2018 ที่ขยายตัว 7.8% ขณะที่กำลังการบรรทุกเพิ่มขึ้น 4.1% อัตราบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยวบินอยู่ที่ 83.7% เพิ่มขึ้น 0.4% จากปี 2018