เดอะ จาการ์ตา โพสต์ รายงานว่า รัฐบาลอินโดนีเซีย ให้ข้อมูลว่า มีนักลงทุนทั้งในท้องถิ่นและต่างประเทศกว่า 30 ราย สนใจเข้าร่วมพัฒนาเมืองใหม่ ทั้ง North Penajam Paser และ Kutai Kertanegara ทางตะวันออกของเกาะกะลิมันตัน
“เราต้องการพันธมิตรที่มีคุณภาพสูง เพราะเราไม่ต้องการการลงทุนที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เมืองหลวงใหม่” Luhut Pandjaitan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานการเดินเรือและการลงทุน กล่าว
เขา กล่าวเพิ่มเติมว่า นักลงทุนมีมาจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงประเทศอื่นๆ
ทั้งนี้ รัฐบาลคาดการณ์ว่าจะมีต้นทุนพัฒนาเมืองหลวงใหม่ 466 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 33,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย 54.4% มาจากการรัฐร่วมทุนกับเอกชน ส่วน 26.4% มาจากภาคเอกชน และ 19.2% มาจากงบประมาณของรัฐ
สำหรับนักลงทุนกว่า 30 ราย ที่สนใจลงทุน Luhut กล่าวว่า อยู่ระหว่างพูดคุยกัน ซึ่ง 5 ราย เป็นบริษัทจากธุรกิจขนส่ง 1 ราย จากธุรกิจโทรคมนาคม 6 ราย จากภาคอุตสาหกรรม 4 ราย เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีก และ 1 ราย เป็นภาคที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ มี 4 บริษัทที่สนใจพัฒนาน้ำดื่ม 3 บริษัท สนใจจัดหาไฟฟ้า 1 บริษัท สนใจบริหารจัดการของเสีย และ 1 บริษัท เสนอบริการสุขภาพ นอกจากนี้ นักลงทุนบางราย หวังมีส่วนร่วมผ่านกองทุนเพื่อลงทุนเมืองใหม่ ประกอบด้วย สถาบันระหว่างประเทศ 3 ราย ที่เสนอบริการกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ 1 ราย เป็นกองทุนทวิภาคี 5 บริษัท เป็นบริษัทหลักทรัพย์ และ 1 บริษัท เป็นผลิตภัณฑ์ประกัน
Luhut กล่าวว่า การพัฒนาเมืองใหม่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน มหาวิทยาลัย และองค์กรที่เป็นของรัฐ โดยแต่ละรายมีหน้าที่ที่แตกต่างกันไป หากเป็นอาคารของรัฐบาลจะได้รับการพัฒนาโดยใช้งบของภาครัฐ แต่ถ้าเป็นเรื่องบันเทิง การศึกษา และสุขภาพ เป็นหน้าที่ภาคเอกชนพัฒนา โดยเบื้องต้น การพัฒนาเมืองใหม่ต้องใช้คนทำงานก่อสร้าง 300,000 คน เป้าหมายของเมืองใหม่นี้คือ พัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะ และเป็นเมืองที่คงความเป็นธรรมชาติ ตามแนวทางความยั่งยืน