ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายกับ B-INCOMESSF

ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายกับ B-INCOMESSF

โดย…เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP®

ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน

BF Knowledge Center

กองทุนรวมเพื่อการออม หรือ SSF เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการเก็บออมเงินไว้ใช้ในวันข้างหน้าที่มีการคาดหมายว่าระบบสวัสดิการต่างๆ ที่มีอยู่จะไม่เพียงพอสำหรับการดูแลประชากรในอนาคต การสนับสนุนให้เกิดการออมด้วยตนเองจึงเป็นทางออกที่สำคัญ โดยรัฐสนับสนุน ให้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับ SSF

สำหรับ กองทุนเปิดบัวหลวงอินคัมเพื่อการออม หรือ B-INCOMESSF เป็นกองทุน SSF ใหม่ ที่มีความลงตัวในการกระจายลงทุนเหมาะสมกับผู้ต้องการลงทุนระยะยาวที่ไม่ต้องการความเสี่ยงที่สูงเกินไปแต่มีโอกาสรับผลตอบแทนดีๆ ในอนาคต

ทั้งนี้ B-INCOMESSF กับกองทุนเปิดบัวหลวงอินคัม (B-INCOME) จะว่าไปก็เหมือนกองทุนเดียวกัน เพราะ B-INCOMESSF จะระดมทุนแล้วนำเงินไปลงทุนใน B-INCOME เลย ซึ่งการนำเงินไปลงทุนในกองทุนอีกทีแบบนี้ ผู้ลงทุนไม่ต้องห่วงว่าจะเสียค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน เพราะการลงทุนในกองทุนรวมของบริษัทจัดการเดียวกันเอง มีเกณฑ์ของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ชัดเจน ไม่ให้คิดค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน

เมื่อ B-INCOMESSF ระดมเงินไปลงทุนใน B-INCOME เราจึงขอทบทวนนโยบายการลงทุนของ B-INCOME ให้ผู้ลงทุนรับทราบกันอีกครั้ง โดย B-INCOME มีนโยบายการลงทุนที่เน้นการกระจายไปยังทรัพย์สินต่างๆ แบบไม่เสี่ยงมากเกินไป มีความผสมผสาน ความตั้งใจคือ จะลงทุนในตราสารหนี้ไม่ต่ำกว่า 50%  หุ้นไม่เกิน 25% และกลุ่มอสังหาฯ REIT โครงสร้างพื้นฐานไม่เกิน 25%

เหตุผลที่เรากระจายการลงทุนแบบนี้ คืออยู่ในตราสารหนี้เกินครึ่งหนึ่ง ก็เพื่อไม่ให้เสี่ยงมากเกินไป พร้อมกับลงทุนในหุ้นด้วยเพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีแม้จะมีความเสี่ยง และมีกระจายลงทุนในพวกอสังหาฯ REIT เนื่องจากรูปแบบมีความสม่ำเสมอของรายได้ ทั้งยังมีความผันผวนน้อยกว่าหุ้น แต่มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตราสารหนี้ซึ่งต่ำมาก

กองทุน B-INCOME นั้น มีการลงทุนในต่างประเทศด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุน เพราะการไปต่างประเทศปัจจุบันทำได้ง่ายขึ้น ต้นทุนต่ำ และมีโอกาสลงทุนในธุรกิจต่างๆ ที่เมืองไทยไม่มีเยอะมาก โดยเฉพาะกลุ่ม REIT ที่ในเมืองไทยยังมีน้อย แม้จะมีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน แต่ผู้จัดการกองทุนก็จะดูแลตรงนี้ให้ว่าช่วงไหนควรป้องกันความเสี่ยงในระดับไหน

ส่วนข้อสังเกตสำคัญที่กองทุน B-INCOMESSF จะแตกต่างจาก B-INCOME เล็กน้อย คือ B-INCOME มีการขายคืนอัตโนมัติทุกๆ 3 เดือน แต่ถ้าเป็น B–INCOMESSF จะไม่มีการขายคืนอัตโนมัติ เพราะต้องลงทุนระยะยาวตามเงื่อนไข SSF เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี และไม่มีนโยบายจ่ายปันผล

โดยรวมแล้ว B-INCOMESSF เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาว และต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่ไม่ต้องการการลงทุนที่เสี่ยงมากเกินไป เช่น ผู้ลงทุนที่มีอายุมากแล้วและไม่ต้องการลงทุนต่อเนื่องในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หรือลงทุนใน RMF อยู่แล้ว ต้องการลงทุนใน SSF เพิ่มเติม ซึ่ง B-INCOMESSF มีการเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 15-21 ก.ค. 2563 นี้