ซีเอ็นบีซี รายงานว่า การทำงานจากที่บ้านกลายเป็นเรื่องปกติในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด และมอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า จำนวนผู้เช่าสำนักงานทั่วเอเชียจะยอมทิ้งพื้นที่ 3-9% ของพื้นที่สำนักงานที่มีอยู่แล้ว ซึ่งก็จะส่งผลให้อัตราการเช่าลดลง 10-15% ใน 3 ปีข้างหน้า
สำหรับผู้เช่ารายใหญ่จากอุตสาหกรรมการเงินและไอที ซึ่งก็มีการดำเนินงานแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจหรือโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการทำงานจากที่บ้าน คาดว่าจะยอมทิ้งพื้นที่สำนักงานมากขึ้น อยู่ที่ 10% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ซึ่งก็อาจจะมีผลกระทบต่อโครงการการเช่าพื้นที่ในช่วงเดือน มิ.ย. 2020-ธ.ค. 2022
ในรายงานประเมินผลกระทบที่พื้นที่สำนักงานให้เช่าหลักๆ จะได้รับจากการลดพื้นที่เช่า ได้แก่ สิงคโปร์ คาดว่าจะลดลง 10% ขณะที่ปัจจุบันลดไปแล้ว 3% จากสิ้นปีก่อน ส่วนโตเกียว จะลดลง 9% แต่จากข้อมูลพบว่า ปัจจุบันยังเพิ่มขึ้น 3% จากสิ้นปีก่อน ฮ่องกง จะลดลง 7% ปัจจุบันตัวเลขลดลง 13% จากสิ้นปีก่อน ส่วน 7 เมืองอันดับแรกในอินเดีย คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5% โดยปัจจุบันลดลงไป 2% จากสิ้นปีก่อน
ทั้งนี้ ธนาคาร ที่คาดว่าจะครองส่วนแบ่ง 40% ของนายจ้างทั้งหมด และมีการทำโครงสร้างพื้นฐานไอทีสำหรับคนทำงานเอาไว้แล้ว คาดว่าจะคืนพื้นที่เช่า 10-15% จากพื้นที่ที่มีอยู่
มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า จากแนวโน้มที่บริษัทต่างๆ จะลดพื้นที่เช่าสำนักงานนั้น พวกเขาจะดำเนินการกลยุทธ์ต่างๆ ได้แก่ กรแบ่งปันโต๊ะทำงาน โดยเมื่อให้ทุกคนทำงานจากที่บ้านได้คนละ 1 วัน ก็จะลดการใช้พื้นที่ในสำนักงานได้ 20% การให้ผู้ที่ทำหน้าที่บางอย่างสามารถทำงานจากที่บ้านได้แบบถาวร เช่น งานทรัพยากรบุคคล หรืองานเบื้องหลังอื่นๆ นอกจากนี้บริษัทอาจมองหาการย้ายสถานที่ตั้งไปยังพื้นที่ที่ต้นทุนถูกกว่า เช่น อินเดีย และเวียดนาม