กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ)

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ)

Highlight

  • ดัชนีบ่งชี้ทางเศรษฐกิจ อาทิ ยอดขายบ้านใน 30 เมืองหลัก ปริมาณการใช้ถ่านหินในการผลิตพลังงาน ระดับการจราจรใน 10 เมืองหลัก กลับมาอยู่ที่ระดับเดียวกันกับก่อนเกิดการระบาดของ COVID-19
  • ความขัดแย้งทางการค้าที่ตึงเครียดต่อเนื่องทำให้บริษัทจีนที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดของสหรัฐฯ หันกลับมาจดทะเบียนในตลาดจีนและฮ่องกง เพราะต้องการลดความไม่แน่นอนของตัวเอง ซึ่งส่งผลดีเพราะเกือบทั้งหมดเป็นธุรกิจที่มีคุณภาพสูงซึ่งจะได้รับประโยชน์จากโครงสร้างระยะยาวที่เปลี่ยนแปลงไปของเศรษฐกิจจีน
  • ระดับราคาหุ้น Valuation ถูกกว่าสหรัฐฯ เมื่อวัดจากอัตราส่วน Price-to-Earnings Ratio สิ้นปี 2563 ตลาดหุ้นจีน A-Shares ปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่า (Discount) เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ (ดัชนี S&P 500) ที่ประมาณ -30%
  • ในระยะสั้นยังต้องติดตามสัญญาณลดความร้อนแรงของราคาหุ้นจากการซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีมาร์จิ้นของนักลงทุนรายย่อย

เศรษฐกิจจีนปัจจุบันอยู่ ณ จุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวหลังก้าวข้ามผ่านสถานการณ์ COVID-19 และกำลังจะเร่งเศรษฐกิจด้วยการผลักดันการบริโภคภายในประเทศ คาดการณ์จะแซงหน้าสหรัฐฯ ในฐานะเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2030 หุ้นจีนเป็นตลาดที่มีความเฉพาะตัวเห็นได้จากมีจำนวนบริษัทเทคยูนิคอร์นมากที่สุดของโลก บริษัทเหล่านี้แน่นอนว่ามีศักยภาพในการก้าวเข้าถึงความต้องการของลูกค้าตอบโจทย์การบริโภคในประเทศที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ในการก้าวไปสู่เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก หุ้นจีนจะมีการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หลายประเทศ ทั้งในประเทศจีน (A-Shares) ฮ่องกง (H-Shares) และประเทศสหรัฐฯ (US-listed) แต่ละตลาดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แทนที่นักลงทุนจะโฟกัสไปยังตลาดเดียว กลยุทธ์การลงทุนแบบ all-in จะช่วยให้แสวงหาโอกาสลงทุนทั้งหมดที่มีในจีนได้

ในอดีตนักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนหุ้นจีนผ่านเฉพาะบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกง ในเวลาเดียวกันบริษัทจีนเริ่มมีการจดทะเบียนในสหรัฐฯ มากขึ้น เป็นการอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนเข้าถึงหุ้นจีน การขยับขยายดังกล่าวได้นำมาสู่การเปิดตลาด A-Shares ซึ่งเป็นตลาดของหุ้นจีนที่จดทะเบียนในประเทศ ผ่านการลงทุนช่องทาง Stock connect โปรแกรม

บริษัทจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกงส่วนใหญ่เป็นเศรษฐกิจแบบเก่าเช่น สถาบันการเงิน สื่อสาร สาธารณูปโภค (ยกเว้นเทคโนโลยี) ขณะเดียวกันบริษัทจีนที่จดทะเบียนอยู่ในสหรัฐฯ จะเน้นไปทางธุรกิจประเภทสินค้าฟุ่มเฟือย สื่อสาร ขณะที่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาด A-Shares มีความคลอบคลุมที่หลากหลายกว่า เป็นเศรษฐกิจใหม่ เช่น ธุรกิจประเภทท่องเที่ยว บันเทิง อุปกรณ์สื่อสาร 5G เฮลธ์แคร์ อุตสาหกรรมออโตเมชัน พลังงานทางเลือก ยานยนต์ ไบโอเทคโนโลยี

ความขัดแย้งทางการค้าที่ตึงเครียดต่อเนื่องทำให้บริษัทจีนที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดของสหรัฐฯ หันกลับมาจดทะเบียนในตลาดฮ่องกงเพราะต้องการลดความไม่แน่นอนของตัวเอง ซึ่งส่งผลดีเพราะเกือบทั้งหมดเป็นธุรกิจที่มีคุณภาพสูงซึ่งจะได้รับประโยชน์จากโครงสร้างระยะยาวที่เปลี่ยนแปลงไปของเศรษฐกิจจีน ในอีกมุมหนึ่งการที่บริษัทเหล่านี้หันกลับมาจดทะเบียนในบ้านเกิดของตัวเอง ก็อาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในประเทศทั้งรายย่อยและสถาบัน ที่ต้องการขยายกรอบการลงทุน

สำหรับกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ) มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ โดยจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภท ตราสารทุนที่ออกโดยบริษัทจีนได้ทุกตลาด กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีนได้มอบหมายให้ Allianz Global Investors Asia Pacific Limited เป็นผู้รับดำเนินการในต่างประเทศ (Outsourced Fund Manager)

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน มีรายละเอียดการลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุน Allianz China A Shares 43.57% และหน่วยลงทุนกองทุน Allianz All China Equity 35.83% ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในบริษัทรายตัว

หน่วยลงทุนกองทุน Allianz China A Shares Equity Fund

ผู้จัดการกองทุน AGI ไม่ได้ปรับพอร์ตการลงทุนอย่างมีนัยจากเมื่อสิ้นไตรมาสที่แล้ว (ไตรมาสที่ 2 ปี 2563) ยังคง Overweight หุ้นในกลุ่มอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรม ไอที และ Underweight หุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินเนื่องจากธุรกิจในภาคการเงินยังมีรัฐบาลเข้ามามีส่วนร่วมกับส่วนแบ่งตลาดของบริการทางการเงินอยู่ ที่เรียกว่า National services โดยวัตถุประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดย ณ ต้นไตรมาสที่ 3 หน่วยลงทุน Allianz China A Shares Fund มีสัดส่วนเงินสด/สินทรัพย์สภาพคล่องที่สูงกว่าระดับปกติ กล่าวคือถือครองเงินสดในสัดส่วน 6.0% เพราะกองทุนได้รับความนิยมทำให้มีเงินไหลเข้ากองทุนมากขึ้น ผู้จัดการกองทุนจึงได้ปรับลดสัดส่วนดังกล่าวด้วยการเลือกลงทุนในหุ้นเติบโตที่อยู่ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรม และไอที

Source: IDS, as of June 30, 2020

ผลการดำเนินงานรอบล่าสุดระหว่างวันที่ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2563 หน่วยลงทุน Allianz China A Shares Fund ทำผลการดำเนินงานในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯได้ 27.3% สูงกว่าดัชนี MSCI China A Shares Onshore Total Return (Net) in USD ที่ 16.0% ผลการดำเนินงานที่ดีเป็นผลมาจากการคัดเลือกหลักทรัพย์รายตัวในแทบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมตั้งแต่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรม ไอที วัสดุก่อสร้าง เฮลธ์แคร์

Source: IDS, as of June 30, 2020

มุมมองต่อหุ้น Top-5 ที่สร้างผลตอบแทนด้านบวกให้กับหน่วยลงทุน Allianz China A Shares (Positive Contributors) ในไตรมาสล่าสุด (ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 หรือระหว่างวันที่ 1 มี.ค. – 30 มิ.ย. 2563)

Source: Allianz China A-Shares, July 2020

1) บริษัท Luxshare Precision Industry (สัดส่วนในหน่วยลงทุน 3.6% สัดส่วนในดัชนี 0.9%, ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 75.9% ในไตรมาส 2)

Sector: ไอที (Information Technology) 

บริษัททำธุรกิจคอนซูเมอร์อิเล็คทรอนิกส์โดยเป็นซัพพลายเออร์ให้กับค่ายบริษัท Apple หากเปรียบเทียบบริษัท Foxconn ซึ่งเป็นบริษัทไต้หวันแล้ว ยังเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดซึ่งผลิตชิ้นส่วนภายในให้มือถือไอโฟน ในจีนบริษัท Luxshare ถือว่าเป็นบริษัท Foxconn สอง เพราะบริษัทสามารถทำในสิ่งที่เหนือกว่าสิ่งที่บริษัท Foxconn ทำได้ เช่นงานในแขนงระบบเครือข่าย 5G นอกจากนี้บริษัทมีโครงสร้างธรรมาภิบาลที่ดี เชื่อว่าในอีก 2-3 ปีจะสามารถสร้างรายได้อย่างก้าวกระโดด

2) บริษัท Shanxi Xinghuacun Fenwi (สัดส่วนในหน่วยลงทุน 3.4% สัดส่วนในดัชนี 0.2%, ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 62.3% ในไตรมาส 2) 

Sector: สินค้าอุปโภคบริโภคฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) 

ตัวอย่างสินค้า

บริษัทเป็นรัฐวิสาหกิจที่ผลิตสุราขาว ภายใต้ชื่อ ‘Fenwi’ ล่าสุดมีการแลกหุ้นกับบริษัทค้าปลีกแห่งหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน China Resources Group ทำให้บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากช่องทางการจัดจำหน่ายได้อย่างรวดเร็วจากจังหวัดชานซี ไปยังภูมิภาคอื่นในจีน ช่วงครึ่งปีแรก ธุรกิจสุราขาวในจีนมียอดขายค่อนข้างดี ราคาขายปลีกหน้าร้านยังคงอยู่ในระดับทรงตัว ส่วนครึ่งปีหลัง จะเป็นช่วงที่มีอุปสงค์มากที่สุด โดยเฉพาะในไตรมาส 3 จะเป็นไตรมาสที่ขายดี กองทุนหลักถือครองหุ้นตัวนี้ต่อไป และหากเมื่อเทียบกับหน่วยลงทุนของกองทุนคู่แข่ง เช่น UBS China A Shares Opportunities จะเน้นลงทุนหุ้นสุราขาวของบริษัท Kweichow Moutai ซึ่งราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 33.6% ในไตรมาส 2 ต่ำกว่าบริษัท Shanxi Xinghuacun Fenwi กว่า 29% ในระยะเวลาเพียงไตรมาสเดียว

3) บริษัท China Tourism Group Duty Free (สัดส่วนในหน่วยลงทุน 3.4% สัดส่วนในดัชนี 0.2%, ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 62.3% ในไตรมาส 2)

Sector: สินค้าอุปโภคบริโภคฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) 

“บริษัทได้รับประโยชน์จากมาตรการล็อคดาวน์ที่ไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศเพื่อลดการแพร่ระบาดของ COVID-19”

เดิมบริษัทมืชื่อว่า China International Travel แต่เนื่องจากบริษัทขยับมาทำ Duty free Shop Operation เป็นธุรกิจหลักเกือบจะทั้งหมด จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบริษัท China Tourism Group Duty Free การที่ราคาหุ้นพุ่งแรงมีสาเหตุมาจากการการกลับมาเปิดพื้นที่ชอปปิงในมณฑลไห่หนานหรือเกาะไหหลำ ซึ่งตรงกับเวลาที่ทางการจีนเลื่อนการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศจีนได้ ซึ่งเดิมทีบริษัทมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนเกาหลีใต้ ไทย ไต้หวัน แต่ภายหลังการชัดดาวน์ ทำให้คนจีนไม่สามารถเดินทางออกไปต่างประเทศได้ ชาวจีนที่ชอบท่องเที่ยวจึงเดินทางไปเกาะไหหลำแทน รายได้บริษัทที่มาจากเกาะไหหลำและคิดเป็นสัดส่วน 30% ของรายได้รวมจึงเติบโตสูง นอกจากนี้ บริษัทได้รับประโยชน์จากการที่ล่าสุดทางการจีนปรับเพิ่มยอดโควต้าให้ชาวจีนสามารถจับจ่ายซื้อสินค้าที่ไม่เสียภาษี (Duty free) ในประเทศได้มากขึ้น

4) บริษัท Zhejiang Dingli Machine (สัดส่วนในหน่วยลงทุน 2.1% สัดส่วนในดัชนี 0.1%, ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 86.2% ในไตรมาส 2)

Sector: อุตสาหกรรม (Industrial)

ตัวอย่างสินค้า

ผลิตรถยกไฟฟ้าสำหรับนั่งร้าน ใช้ในงานก่อสร้างของคนงาน รายใหญ่ที่สุดในจีน มีจุดเด่นตรงที่คนจีนกังวลเรื่องความปลอดภัยจึงมีแนวโน้มว่าทั้งอุตสาหกรรมจะเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัมซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่าและกำลังได้รับความนิยม ในห้วงเวลาที่ตลาดไม่มั่นใจต่อการเติบโตราคาหุ้นมักสะท้อนเชิงลบตามมุมมองของตลาด ธุรกิจบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ในครึ่งปีหลังของปี 2563 หากต่างประเทศมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น ยอดส่งออกน่าจะก้าวกระโดดส่งผลบวกต่องบการเงินไตรมาส 3

5) บริษัท Hangzhou Tigermed Consulting (สัดส่วนในหน่วยลงทุน 4% สัดส่วนในดัชนี 0.2%, ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 62.3% ในไตรมาส 2)

Sector: เฮลธ์แคร์ (Health Care)

ลักษณะธุรกิจ

บริษัททำธุรกิจ Clinical contractor research ให้กับบริษัทเภสัชกรรมที่ทดลองนวัตกรรมยาในประเทศจีน ด้วยการที่ชาวจีนให้ความใส่ใจตระหนักในเรื่องสุขภาพและงบประมาณทางด้านเฮลธ์แคร์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้อุปสงค์ต่องานวิจัยยาที่อยู่ในระยะทดลองทางห้องแลป ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทเร่งตัว ในอนาคตบริษัทเตรียมพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาด H-Shares เช่นกัน

มุมมองต่อหุ้น Top-5 ที่สร้างผลตอบแทนด้านลบให้กับหน่วยลงทุน Allianz China A Shares (Negative Contributors) ในไตรมาสล่าสุด (ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 หรือระหว่างวันที่ 1 มี.ค. – 30 มิ.ย. 2563)

1) บริษัท Kweichow Moutai (สัดส่วนในหน่วยลงทุน 0.0% สัดส่วนในดัชนี 4.0%, ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 33.6% ในไตรมาส 2)

Sector: สินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Discretionary)

ตัวอย่างสินค้า

ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นแต่ยังต่ำกว่าบริษัทเหล้าคู่แข่งอย่างหุ้นของบริษัท Shanxi Xinghuacun Fenwi (กองทุนลงทุนอยู่) และบริษัท Wu Liang Ye (กองทุนไม่ได้ลงทุน) ดังนั้นในเชิงเปรียบเทียบการที่กองทุนไม่ถือบริษัท Kweichow Moutai จึงได้ทำผลตอบแทนได้ดีกว่าแม้จะเป็นบริษัทจะเป็น Top Negative Contributors ก็ตาม

2) บริษัท Yonghui Superstores Co (สัดส่วนในหน่วยลงทุน 8% สัดส่วนในดัชนี 0.3%, ราคาหุ้นลดลง -6.9% ในไตรมาส 2)

Sector: สินค้าอุปโภคจำเป็น (Consumer Staple)

ทำซูเปอร์มาร์เก็ต ราคาหุ้นบริษัทวิ่งขึ้นช้ากว่าตลาด แต่เนื่องจากสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้เพิ่มขึ้นในช่วงสถานการณ์ COVID-19 กองทุนจึงถือครองต่อ

 3) Citic Securities Co Ltd (สัดส่วนในหน่วยลงทุน 9% สัดส่วนในดัชนี 1.1%, ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 9.1% ในไตรมาส 2)

Sector: Financial (สถาบันการเงิน)

เจ้าตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในจีนแผ่นดินใหญ่ บริษัทมีเป้าหมายขยายธุรกิจไปยังฮ่องกงและประเทศในกลุ่มอาเซียน ด้วยความผันผวนของตลาด A-Shares ในไตรมาส 2 ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเพียง 9.1% แต่ตั้งแต่เดือนก.ค. เป็นต้นไป ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เริ่มสูงขึ้น ประกอบกับธุรกิจการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์น่าจะได้รับประโยชน์จากการที่บริษัทจีนในสหรัฐฯ หันกลับมาจดทะเบียนในประเทศมากขึ้น

4) บริษัท Poly Developments And Holdings (สัดส่วนในหน่วยลงทุน 2.4% สัดส่วนในดัชนี 0.7%, ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 5.4% ในไตรมาส 2)

Sector: อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate)

แม้ผู้จัดการกองทุนจะไม่ได้ให้น้ำหนักกับกลุ่มอสังหาฯ มากนัก แต่เนื่องจากเป็นบริษัทคุณภาพ สามารถส่งมอบการขายได้ตรงตามเป้าหมาย ผนวกกับเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจที่ทีมขายได้มีแรงจูงใจในการได้รับ Management incentive หากสร้างยอดขายได้ทะลุเป้าหมาย

หน่วยลงทุนกองทุน Allianz All China Equity Fund

ผู้จัดการกองทุน AGI ยังคงให้น้ำหนักกับหุ้นในกลุ่มเดียวกันกับหน่วยลงทุน Allianz China A Shares Equity Fund กล่าวคือ Overweight หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรม และไอที ในทางตรงกันข้าม Underweight หุ้นในกลุ่มสถาบันการเงิน และบริการด้านการสื่อสาร

Source: IDS, as of June 30, 2020

ผลการดำเนินงานรอบล่าสุดระหว่างวันที่ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2563 หน่วยลงทุน Allianz All China Equity Fund ทำผลการดำเนินงานในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯได้ 26.9% สูงกว่าดัชนี MSCI China A Shares Onshore Total Return (Net) in USD ที่ 15.4% ผลการดำเนินงานที่ดีเป็นผลมาจากการคัดเลือกหลักทรัพย์รายตัวในแทบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรม ไอที เฮลธ์แคร์

Source: IDS, as of June 30, 2020

ตัวอย่างหุ้นที่สร้างผลตอบแทนด้านบวกให้กับหน่วยลงทุน Allianz All China Equity Fund (Positive Contributor) ในไตรมาสล่าสุด (ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 หรือระหว่างวันที่ 1 มี.ค. – 30 มิ.ย. 2563)

  • บริษัท Meituan Dianping (สัดส่วนในหน่วยลงทุน 1.9% สัดส่วนในดัชนี 1.0%, ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 83.6% ในไตรมาส 2)

Sector: บริการด้านการสื่อสาร (Communication Services) 

เป็นบริษัทที่ให้บริการจัดส่งอาหารท้องถิ่น แอปพลิเคชันของบริษัทกลายเป็นที่ยอดฮิตของชาวแดนมังกรซึ่งครอบคลุมตั้งแต่สืบค้นร้านอาหาร รีวิวร้านและบริการอื่นๆ แบบครบวงจรแถมยังเป็น Food Delivery ที่ขึ้นอันดับหนึ่งเบียดบริษัทยักษ์ใหญ่จาก Alibaba ไปได้อย่างขาดลอย กลยุทธ์สำคัญที่ทำให้บริษัทระสบความสำเร็จนั่นคือ การทำตัวเองให้เป็นสุดยอดผู้ให้บริการ เจาะกลุ่มเป้าหมายตามพื้นที่ ทำทุกวันให้สดใหม่เสมอและทุ่มสุดตัวไม่กลัวขาดทุน

ตัวอย่างหุ้นที่สร้างผลตอบแทนด้านลบให้กับหน่วยลงทุน Allianz All China Equity Fund (Negative Contributor) ในไตรมาสล่าสุด (ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 หรือระหว่างวันที่ 1 มี.ค. – 30 มิ.ย. 2563)

  • บริษัท Pinduoduo (สัดส่วนในหน่วยลงทุน 0% สัดส่วนในดัชนี 0.4%, ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 138.2% ในไตรมาส 2)

Sector: Information Technology (อินเทอร์เน็ตและอี-คอมเมิร์ซ)

ราคาหุ้นสูงขึ้นเพราะผู้คนอยู่ที่บ้านและชอปปิงออนไลน์แทนการออกไปนอกบ้าน กองทุน Allianz All China Equity Fund ไม่มีฐานะลงทุนในบริษัทนี้เพราะถือครองในอาลีบาบาและเจดีดอทคอมแทน ทั้ง 2 บริษัทที่ถือครอง 1. มีคุณภาพของทีมจัดการที่ดีกว่า 2. เป็นผู้นำตลาดอี-คอมเมิร์ซ 3. แพลตฟอร์มด้านอี-คอมเมิร์ซมีเป้าหมายเจาะตลาดของคนตามเมืองใหญ่ซึ่งมีกำลังซื้อมากกว่า

  • บริษัท Semiconductor Manufacturing

Sector: Information Technology (เซมิคอนดักเตอร์)

กองทุนฯ ไม่ลงทุนเพราะมองว่าพื้นฐานยังไม่แข็งแกร่ง ขณะที่ราคาหุ้นขึ้นมาเกือบ 200% ในเวลาเพียง 2 เดือน กองทุนฯ เลือกลงทุนในบริษัทไต้หวันชื่อ TSMC แทน บริษัทดังกล่าวไม่อยู่ในดัชนี

คำถามที่น่าสนใจสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ)

1. หุ้นจีนที่ขึ้นมาในรอบนี้มีความแตกต่างจากตลาดกระทิงในปี 2015 อย่างไร

ระดับมูลค่าปัจจุบันเทรดที่ระดับ 12 Months FW P/E 15 x ทั้งหุ้นจีน Onshore และ Offshore ถือว่าไม่ได้เทรดในระดับที่แพงจนเกินไป กล่าวในอีกนัยหนึ่งระดับมูลค่าปัจจุบันมีความสมเหตุสมผลกับการที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาในรอบนี้จาก 3 ปัจจัย

ปัจจัยแรก คือ ตัวเลขการส่งออก อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ และ PMI พบว่าฟื้นตัวในไตรมาส 2 ทำให้คาดว่าในไตรมาส 3 ภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตอยู่ในระดับนี้ได้ต่อไป

ปัจจัยที่ 2 คือ สภาพคล่องในระบบ สนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะในตลาด Onshore A-Shares ทั้งที่เซี่ยงไฮ้และที่เซินเจิ้นพบการหมุนเวียนซื้อขายเปลี่ยนมือของหุ้นในตลาดรายวันและการซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีมาร์จิ้นของนักลงทุนรายย่อยที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี

ปัจจัยที่ 3 คือ ทัศนคติของผู้ลงทุนรายย่อยที่มองบวกต่อตลาดหุ้นในประเทศ เพราะต่างมั่นใจและมีความเห็นตรงกันว่าหากมีความจำเป็น เช่น สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มส่อแววไม่ดี ตลาดกระทิงรอบนี้จะได้รับการสนับสนุนจากนโยบายและเครื่องมือภาครัฐ ที่ผ่านมาในอดีต นักลงทุนรายย่อยชาวจีนแผ่นดินใหญ่มักคุ้นเคยกับการสร้างความมั่งคั่งทางการเงินผ่านการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์เสียเป็นส่วนใหญ่ (ไม่ค่อยลงทุนในหุ้น) แต่ 2 ปีที่ผ่านมาเป็นไปได้ยากที่จะแสวงหากำไรจากตลาดอสังหาริมทรัพย์เพราะอุปสงค์ใน Tire-1 Tier-2 city ทรงตัว ทำให้ในสายตาของนักลงทุนรายย่อยชาวจีนเห็นตรงกันว่าตลาดอสังหาฯไม่น่าจะเป็นทางเลือกการลงทุนที่ดีในระยะถัดไป รวมถึงต่างรับทราบร่วมกันว่าตลาด Mainland A-Shares ในเชิงโครงสร้างระยะยาวจะตกเป็นเป้าสายตาของการเข้ามาลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติผ่าน Stock connect เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่ราคาหุ้นจีนร่วงลงจะพบว่ามีเงินไหลเข้าผ่านทาง Stock connect อยู่เสมอ ทำให้มั่นใจได้ว่านักลงทุนต่างชาติจะไม่จางหายไปไหนแต่จะใช้จังหวะที่ราคาหุ้นจีนร่วงลง เพื่อเพิ่มฐานะการลงทุนของตนเอง

แม้หุ้นจีน mainland จะได้แรงส่งจากปัจจัย 3 ส่วนข้างต้น สิ่งที่เราควรติดตามใกล้ชิดคือ ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีมาร์จิ้นของนักลงทุนรายย่อยซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 80% ของปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์รายวัน หากผู้ถือหน่วยลงทุนจำได้ในปีค.ศ. 2015 ตลาดหุ้นจีนวิ่งขึ้นและร่วงลงอย่างรวดเร็วโดยมีสาเหตุหลักจากกิจกรรมการซื้อขายหุ้นผ่านบัญชีมาร์จิ้น

กราฟด้านล่าง แสดงยอดการซื้อขายในบัญชีมาร์จิ้นซึ่งเท่ากับ 1.25 ล้านล้านหยวน ณ ปัจจุบัน (คิดเป็นสัดส่วน 10% ของปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์รายวัน) ยังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดในปี ค.ศ. 2015 ที่ 2.25 ล้านล้านหยวน (คิดเป็นสัดส่วน 18% ของปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์รายวัน) เมื่อใดก็ตามที่สัดส่วนดังกล่าวเกินกว่า 15% มีโอกาสที่ทางการจะออกมาตรการเพื่อชะลอความร้อนแรงจนเกินไปของตลาด

ดังนั้น ในมุมมองของ AGI จะเฝ้าจับตาหากทางการส่งสัญญาณลดความร้อนแรงราคาหุ้นจะเกิดขายทำกำไร โดยมองกรณี Base case ต่อไปว่าหุ้นจีนเริ่มจะผันผวน เกิด correction แต่ด้วยพื้นฐานที่สนับสนุนและระดับมูลค่าที่สมเหตุสมผล เมื่อใดก็ตามที่ราคาลดลงมากกว่า เช่นเท่ากับ -10% หรือมากกว่านี้ ก็จะเป็นโอกาสกลับเข้าไปลงทุน

ปัจจัยบวกและลบต่อการลงทุนหุ้นจีน

(+) ระดับราคาหุ้น Valuation ถูกกว่าสหรัฐฯ เมื่อวัดจากอัตราส่วน Price-to-Earnings Ratio สิ้นปี 2563 ตลาดหุ้นจีน A-Shares ปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่า (Discount) เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ (ดัชนี S&P 500) ที่ประมาณ -30%

(+) สภาพคล่องมีเพียงพอ การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ให้แนวทางไว้ว่าสภาพคล่องในระบบการเงินต้องมีเพียงพอ ทำให้ ณ ขณะนี้ TSF (Total Social Financing) ซึ่งเป็นเงินทุนสภาพคล่องที่สนับสนุนภาคธุรกิจของเอกชนโดยตรงในรูปแบบเงินให้กู้ยืม (อาทิ RMB Loans, Foreign Currency loans, Entrusted loans etc.) รวมถึงปริมาณเงินในระบบ (M2) ณ สิ้นเดือนพ.ค. 2563 เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 ที่ระดับ 12.5% และ 11% ปกติแล้วทิศทางราคาหุ้นจีน A-Shares จะเพิ่มขึ้น/ลดลงไปทิศทางเดียวกันกับสภาพคล่องในระบบ ซึ่งพบว่าเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562

(+) ดัชนีบ่งชี้ทางเศรษฐกิจ อาทิ ยอดขายบ้านใน 30 เมืองหลัก ปริมาณการใช้ถ่านหินในการผลิตพลังงาน ระดับการจราจรใน 10 เมืองหลัก กลับมาอยู่ที่ระดับเดียวกันกับก่อนเกิดการระบาดของ COVID-19 (ดังกราฟ)

Source: Outlook of China A Shares in the second wave risk

(-) แม้หุ้นจีนกลับมาสู่ระดับมูลค่าที่สมเหตุสมผล แต่ก็ไม่ได้ซื้อขายในระดับที่ถูกเหมือนช่วงก่อนหน้า เมื่อวัดจากอัตราส่วน Forward 12 Month P/E Ratio หุ้นจีน A-Shares (MSCI China A Onshore Index) มีอัตราส่วนอยู่ที่ 15.6 x (สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 14.0 x), หุ้นจีนทุกตลาด (MSCI China Index) มีอัตราส่วนอยู่ที่ 16.0 x (สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 12.5 x)

กราฟ: แสดงระดับมูลค่า (Valuation) หุ้นจีนระหว่างปี ค.ศ. 2007-2020

(-) ราคาหุ้นอาจเกิดการขายทำกำไร correction แต่ด้วยพื้นฐานมหภาคที่สนับสนุนและระดับมูลค่าที่สมเหตุสมผล เมื่อใดก็ตามที่ราคาลดลงมากกว่า เช่นเท่ากับ -10% หรือมากกว่านี้ ก็จะเป็นโอกาสกลับเข้าไปลงทุน

กระบวนการลงทุนของ Allianz Global Investor Fund – All China Equity and China A Shares

ดังนั้นหุ้น High Conviction ที่คัดสรรนั้นได้ผ่านกระบวนการของ

  1. คัดสรรหลักทรัพย์จากปัจจัยสามด้านคือต้องเป็นทั้งหุ้นเติบโต (Growth) หุ้นคุณภาพ (Quality) และหุ้นที่มีระดับมูลค่าเหมาะสม (Valuation) เพื่อให้ได้มาซึ่งหลักทรัพย์ลงทุน 40-60 บริษัท
  2. ทีมงานวิจัยภาคสนาม (Grass roots research) ลงไปสำรวจบริษัทนั้นๆตั้งแต่แหล่งที่มาของรายได้ แหล่งที่มาของต้นทุน ทิศทางอุตสาหกรรม ทั้งจากผู้ประกอบการ ตัวแทนขาย ลูกค้า
  3. วิเคราะห์ติดตามความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง (Ongoing Basis) ว่าเป็นไปตามแนวทางการลงทุน (Client guideline) ความเสี่ยงจะถูกประเมินทั้งระดับพอร์ตโฟลิโอ ประเทศ อุตสาหกรรม สไตล์ และรายหลักทรัพย์ โดยใช้ตัวชี้วัดมาตรฐานเช่น Tracking Error, Sharpe Ratio, Information Ratio, Volatility และ Portfolio Beta

สัดส่วนการลงทุนกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2563

สัดส่วนการลงทุนตามประเภทการลงทุน (% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ):

  • ตราสารหนี้ 0.48%
  • ตราสารทุน 96.38%
  • เงินฝาก/บัตรเงินฝาก 0.48%
  • อื่นๆ 3.14%

ตราสารที่มีการลงทุน 3 อันดับแรก (% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ):

  • Allianz China A-Shares – PTUAC 43.57%
  • Allianz Gloabal Investors Fund – Allianz All China EQ – PT 35.83%
  • ALIBABA GROUP HOLDINGS 4.17%

ผลการดำเนินงานกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2563

ประวัติการจ่ายปันผลกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน

ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต