ยูบีเอสแนะนักลงทุนให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในทองคำ

ยูบีเอสแนะนักลงทุนให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในทองคำ

โดย…ทนง ขันทอง

ราคาทองคำมีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่ทำสถิติสูงสุดที่ระดับ 2,089 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในวันที่ 7 สิงหาคมปีนี้ หลังจากนั้นราคาทองคำมีการปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร โดยล่าสุดในช่วงเช้าของวันที่ 1 ตุลาคม ราคาทองคำลงไปอยู่ที่ระดับ 1,892 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ยูบีเอส ซึ่งเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ได้แสดงความเห็นว่า ราคาทองคำมีการปรับตัวลงมาทั้งๆ ที่สถานการณ์โดยรวมยังไม่มีความแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก๊อกสองของสหรัฐฯ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ส่อเค้าว่าจะวุ่นวาย การระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่สิ้นสุด และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน เพราะว่าตามปกติแล้วในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ ทองคำควรมีราคาสูงขึ้น เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่ถือว่าเป็น safe haven

ยูบีเอส กล่าวในรายงานว่า การอ่อนค่าของราคาทองคำในช่วงเวลานี้ไม่ใช่เป็นการเริ่มต้นของการปรับราคาลงต่อไป แต่น่าจะเป็นเรื่องปรับราคาระยะสั้นมากกว่า พร้อมกับกล่าวเพิ่มเติมว่า มีเหตุผล 3 ประการ ที่นักลงทุนควรถือโอกาสในช่วงจังหวะเวลานี้เพื่อเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในทองคำ

1. มาตรการทางการเงินของเฟด หรือธนาคารกลางของสหรัฐฯ เนื่องจากสภาคอนเกรซยังคงงัดข้อกันเรื่องงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 รวมทั้งปัญหาโควิด-19 ที่ยังไม่สิ้นสุด เฟดจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่เอื้อตลาดการเงินในเรื่องของสภาพคล่อง อันเห็นได้จากการที่เฟดได้ประกาศว่าจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ไปอีกหลายปี อย่างน้อยไปจนถึงปี 2023 โดยตั้งเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% และจะยอมปล่อยให้เงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมายนี้ โดยจะไม่รีบเร่งขึ้นดอกเบี้ย ทั้งนี้เพื่อที่จะให้ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ฟื้นตัวกลับคืนสู่ภาวะปกติ

นอกจากนี้เฟดจะเพิ่มการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แม้ว่างบดุลของเฟดจะอยู่ที่ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ  และไม่ได้ขยับมากนักตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เฟดจะซื้อพันธบัตรอายุยาว เพื่อที่จะจำกัดการขึ้นของดอกเบี้ยเชิงเทคนิคของพันธบัตร

2. การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความไม่แน่นอนสูง ทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และโจ ไบเดน คู่ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต ต่างตั้งป้อมแล้วว่าจะไม่ยอมรับผลความพ่ายแพ้ ทำให้อาจจะต้องพึ่งพาขบวนการยุติธรรมในการตัดสินผลการเลือกตั้ง ความไม่แน่นอนนี้จะทำให้ตลาดการเงินมีความผันผวน และเงินอาจจะไหลเข้าทองคำ สวิสฟรังค์ หรือเยนมากกว่าที่จะไหลเข้าดอลลาร์สหรัฐ แนวโน้มในระยะยาว ดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ รวมทั้งหนี้ของสหรัฐฯ ที่อยู่ระดับสูง เนื่องจากทองคำถูกกำหนดราคาโดยเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ทองคำจะมีราคาสูงขึ้น

3. หนี้ของโลกเพิ่มขึ้น ยูบีเอส มองว่า ธนาคารกลางต่างๆ จะยอมปล่อยให้เงินเฟ้อสูงขึ้นก่อนที่จะขึ้นดอกเบี้ย ระบบเศรษฐกิจโลกหลังการระบาดของโควิด-19 จะมีภาวะของหนี้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ดอกเบี้ยต้องคงอยู่ระดับต่ำ และเงินเฟ้อจะสุงขึ้นเนื่องจากความไม่แน่นอนในมาตรการทางการคลังที่จะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทองคำเปิดโอกาสให้นักลงทุนใช้เป็นทรัพย์สินที่ช่วยประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

สรุปแล้ว ยูบีเอส คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะกลับไปแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ภายในก่อนสิ้นปีนี้ และอาจจะไปถึงระดับ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ก็ได้ในกรณีที่ตลาดการเงินประสบกับความตกต่ำ