โดย…ทนง ขันทอง

The South China Morning Post รายงานในบทความ “China’s stock market approaches 2018 peak on recovery tonic as valuation hurdle evokes 2015 pain (19/10/2020)” ว่า การดีดตัวแรงของตลาดหุ้นจีนตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดความคาดหวังจากนักลงทุนว่า ตลาดอาจจะทำนิวไฮในช่วงก่อนสิ้นปีเนื่องจากเศรษฐกิจจีนมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน

ในสัปดาห์ทีผ่านมา มูลค่าตลาดรวมของตลาดหุ้นจีนพุ่งทะละระดับ 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015 ทำให้นักวิเคราะห์บางคนมองว่าดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิทจะสามารถฝ่าทะลวงการเทรดแบบไซด์เวย์ไปไต่ระดับสูงที่เคยทำเอาไว้ในเดือนมกราคมปี 2018 ก่อนที่ปีนี้จะสิ้นสุดลง

ในขณะนี้ ด้วยมูลค่าตลาดรวม 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดหุ้นจีนมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองลงมาจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าตลาดรวม 38.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีขนาดใหญ่อันดับ 3 ที่ 6.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และตลาดหุ้นฮ่องกงมีขนาดใหญ่อันดับ 4 ที่ 5.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีของตลาดเซี่ยงไฮ้ทะยานสูงกว่าดัชนีของตลาดหุ้นโลก โดยในปีนี้ได้ทำระดับเพิ่มขึ้น 9.4% ไปแตะ 3,336.36 จุด ส่วนดัชนีของตลาด S&P 500 สูงขึ้น7.8% ในขณะที่ดัชนี MSCI Asia Pacific Index เพิ่มขึ้นเพียง 2.3%

ตัวเลขการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 3 จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนมากขึ้น โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติได้รายงานว่า อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจของจีนในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้น 4.9% เทียบกับ 3.2% ในไตรมาสที่ 2 และ -6.8% ในไตรมาสแรกที่จีนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการชัตดาวน์เศรษฐกิจเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา กล่าวโดยรวมเศรษฐกิจจีนในระยะ 9 เดือนแรกของปีนี้มีอัตราเติบโต 0.7%

ในปี 2020 กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะเป็นเศรษฐกิจเดียวในโลกที่จะมีอัตราการขยายตัวเป็นบวก โดยจะเติบโต 1.9% ในขณะที่เศรษฐกิจโลกจะหดตัว 4.4%

The South China Morning Post รายงานต่อไปว่า แรงเหวี่ยงของเศรษฐกิจจะช่วยให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวต่อไป รวมทั้งทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะดีขึ้นไปด้วย นอกจากนี้ ภาคการผลิตของจีน การส่งออก การบริโภคภายในประเทศ และการขยายตัวของเครดิตและปริมาณเงินจะช่วยหล่อเลี้ยงธุรกิจเพิ่มเติม

BCA Research เขียนรายงานว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ของจีนจะช่วยสร้างแรงเหวี่ยงของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไปจนถึงครึ่งแรกของปี 2021 นอกจากนี้ปัจจัยพื้นฐานภายในจะมีส่วนช่วยให้ตลาดหุ้นทำราคาสูงขึ้นในระยะ 6-9 เดือนข้างหน้า