ซีเอ็นบีซี รายงานว่า พลเรือเอก Brett Giroir ผู้ช่วยเลขานุการกรมอนามัยและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ กล่าวว่า การที่ไฟเซอร์ประกาศว่าวัคซีนไวรัสโคโรนาของบริษัทมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโควิด-19 ประกอบกับแผนการผลิตและการกระจายวัคซีนโควิด-19 ของชาตินั้น ทำให้หน่วยงานสุขภาพสหรัฐฯ มีมุมมองเชิงบวกอย่างมากว่า วัคซีนนี้และวัคซีนอื่นๆ ที่อยู่ในขั้นตอนพัฒนาจะมีประสิทธิภาพจบการแพร่ระบาดทั่วโลกนี้ได้
ก่อนหน้านี้ ไฟเซอร์ ประกาศว่า วัคซีนของบริษัท มีประสิทธิภาพ 90% ในการป้องกันโควิด-19 กับกลุ่มที่ไม่มีการติดเชื้อมาก่อน ถือเป็นพัฒนาการที่ก้าวหน้า เป็นวันที่ดีของวิทยาศาสตร์และมนุษยชาติ เปรียบได้กับที่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ระบุว่า การให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ลดความเสี่ยงการป่วยเป็นไข้หวัดได้ 40-60% จากประชากรทั้งหมด
“เราเชื่อว่านี่ถือเป็นพัฒนาการด้าานการแพทย์ที่สำคัญในรอบกว่า 100 ปี เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ทางด้านวิทยาศาสตร์และมนุษยชาติเมื่อวัคซีนที่คิดค้นออกมามีประสิทธิภาพถึง 90%”เขา กล่าว
นักลงทุนและฝ่ายนโยบาย มองว่า วัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพจะทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นคืนชีพได้หลังการแพร่ระบาดครั้งใหญ่สร้างผลเสียหายเกือบทุกประเทศทั่วโลกรวมถึงภาคธุรกิจ โดยปัจจุบันมีวัคซีนอยู่ระหว่างทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ที่สหรัฐฯ สนับสนุน 4 รายการ คือ ไฟเซอร์ โมเดน่า แอสตร้าเซเนก้า และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีวัคซีนแล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ก็เตือนว่า ไวรัสโคโรโนามีแนวโน้มจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นที่เหมือนๆ กับไข้หวัดใหญ่ประจำปีในที่สุด
Giroir กล่าวว่า ไวรัสโคโรนาจะไม่หายไปจากโลกใบนี้ แต่ก็หวังว่าวัคซีนจะทำให้ไวรัสแพร่ในระดับต่ำลง จนกลายเป็นโรคที่เกิดได้ยาก เหมือนโปลิโอ แต่จนกว่าจะถึงเวลานั้น เราต้องดำเนินมาตรการสาธารณสุข เรียกร้องให้ประชาชนสวมหน้ากาก ล้างมือ และยังคงรักษาระยะห่างจากคนอื่นๆ อยู่