นิวส์ สเตรทไทม์ส รายงานว่า ยูโอบี มาเลเซีย เปิดเผยผลสำรวจพบว่า เกือบ 7 ใน 10 ของผู้บริโภคชาวมาเลเซีย (69%) ซื้อสินค้าจากแบรนด์ท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้ฟื้นตัวกลับมาได้หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยแนวโน้มนี้แข็งแกร่งขึ้นในประเทศนี้ เมื่อเทียบกับ ในไทย จะอยู่ที่ 67% เวียดนาม 58% และสิงคโปร์ 51% ตามการศึกษาทิศทางการบริโภคในอาเซียนของยูโอบี มีเพียงอินโดนีเซียประเทศเดียวที่ทำการสำรวจแล้วมีตัวเลขที่สูงกว่า โดยพบว่า ผู้บริโภค 72% เลือกซื้อสินค้าในท้องถิ่น
Raymond Chui ผู้อำนวยการบริหาร ยูโอบี มาเลเซีย และหัวหน้าประจำประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า แนวโน้มเชิงบวกที่ออกมาในผลสำรวจเป็นแรงกระตุ้นขวัญกำลังใจของผู้ประกอบธุรกิจในท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้
ทั้งนี้ เงินทุกๆ ริงกิตที่สนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่นสามารถสร้างสิ่งที่แตกต่างได้ การที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าแบรนด์ท้องถิ่นก่อน ก็ช่วยเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจมาเลเซียทำยอดขายได้สูงขึ้น และยังกระตุ้นความเชื่อมั่นของเจ้าของกิจการและพนักงานได้ด้วย
“ด้วยมาตรการป้องกันที่นำมาใช้ต่อสู้กับโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคแสดงตัวว่าจะสนับสนุนแบรนด์ท้องถิ่นผ่านการซื้อออนไลน์ และก็พบว่า ผู้บริโภคและธุรกิจจำนวนมากก็หันมาซื้อขายกันบนอินเทอรืเน็ตอยู่แล้ว” Chui กล่าว
เขา ยังให้ข้อมูลเพิ่มด้วยว่า ลูกค้าธุรกิจของธนาคาร มียอดขายออนไลน์ เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อดูจากยอดขายนับตั้งแต่เดือน มี.ค.-ต.ค. ที่ผ่านมา
ในการสำรวจครั้งนี้ ยังพบว่า ในช่วงที่ไวรัสแพร่ระบาด ผู้บริโภคชาวมาเลเซียจะใช้จ่ายออนไลน์กับการซื้ออาหารแบบส่งถึงที่ก่อน 91% ของชำ 89% อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ 84% ผลิตภัณฑ์ความงามส่วนบุคคล 85% และเครื่องแต่งกาย 88%
นอกจากนี้ พบว่า 60% ของผู้บริโภคชาวมาเลเซีย ใช้จ่ายเงินมากขึ้นกับภาคธุรกิจเพื่อสนับสนุนผู้ที่ชีวิตได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ด้วย