- สหรัฐฯ มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.25 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เน้นด้านการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งรวมถึงการคมนาคม และการใช้พลังงาน ส่งผลเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานหมุนเวียน แบตเตอรี่ ยานยนต์ไฟฟ้า เซมิคอนดักเตอร์ และการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ในช่วงเดือน มี.ค. ที่ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานหมุนเวียนปรับลดลงมา ผู้จัดการกองทุนเห็นโอกาสในการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกองทุน Clean Energy
- ปัจจัยที่สนับสนุนหุ้นที่เน้นความยั่งยืน (Sustainability) ได้แก่ รัฐบาลประเทศหลักทั่วโลกให้ความสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของกลุ่มยานยนต์ไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์ไร้คนขับ นวัตกรรมสนับสนุนให้ต้นทุนพลังงานหมุนเวียนลดลง และธุรกิจปรับตัวให้มีการประหยัดทรัพยากรและลดการใช้พลังงาน
ภาพรวมตลาด
ตลาดหุ้นหลักของโลกปรับตัวในทิศทางดีขึ้น ไตรมาส 1/2021 ดัชนี S&P500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% ดัชนี Stoxx 600 ปรับเพิ่มขึ้น 7% มีความมั่นใจในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากการแจกจ่ายวัคซีน และมีการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยเฉพาะนโยบายของสหรัฐวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะให้กับคนอเมริกันเพื่อบรรเทาวิกฤตโควิด นอกจากนี้ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ และยุโรปมีการควบรวมกิจการกันมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1998 นับเฉพาะไตรมาส 1/2021 มูลค่าการควบรวมกิจการมีทั้งสิ้น 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับ หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน มีแรงขายทำกำไรและมีเงินทุนไหลออกจากหุ้นพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานลมและแสงอาทิตย์ และหุ้นที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ เนื่องจากปีที่แล้วปรับตัวขึ้นมามาก ขณะที่หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หุ้นด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น ด้านการเกษตร การความคุมมลพิษและสภาพภูมิอากาศมีผลการดำเนินงานที่ดี จากนโยบายการสนับสนุนด้านภูมิอากาศของสหรัฐฯ
ปัจจัยบวกที่สำคัญต่อหุ้นกลุ่มยั่งยืน คือ เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา สหรัฐฯ มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.25 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เน้นด้านการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งรวมถึงการคมนาคม และการใช้พลังงาน ส่งผลเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานหมุนเวียน แบตเตอรี่ ยานยนต์ไฟฟ้า เซมิคอนดักเตอร์ และการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
พอร์ตการลงทุนในช่วงเดือน มี.ค. ที่ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานหมุนเวียนปรับลดลงมา ผู้จัดการกองทุนเห็นโอกาสในการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกองทุน Clean Energy และมองว่าราคาหุ้นกลุ่มนี้น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จึงทำให้สัดส่วนการลงทุน ณ 31 มี.ค 2564 กองทุนลงทุนใน Pictet Global Environmental Opportunities 49.02% และ Pictet Clean Energy 43.99% แตกต่างจากพอร์ตตัวอย่างในช่วง IPO ที่มีสัดส่วน Pictet Global Env. Opp. 75% และ Pictet Clean Energy 25%
อย่างไรก็ตาม B-SIP ยังคงบริหารโดยใช้ Core – Satellite (ธีมหลัก-ธีมร่วม) และผู้จัดการกองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนตามดุลยพินิจ
มุมมองในอนาคต
รัฐบาลประเทศหลักๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพภูมิอากาศมากขึ้น และหลายประเทศตั้งเป็นวาระเร่งด่วน เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ สหภาพยุโรป จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งมีพันธกิจที่จะลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นแรงสนับสนุนการลงทุนในธีมนี้
นวัตกรรมและการลดลงของต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน เป็นแรงผลักดันให้การแก้ปัญหามลพิษและสภาพภูมิอากาศมีความสำคัญมากขึ้น
ยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์ไร้คนขับเป็นอุตสาหกรรมที่จะมีขนาดใหญ่มากในอนาคต
โรงงานอุตสาหกรรมใช้ซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น เพื่อประหยัดทรัพยากรและลดการใช้พลังงาน รวมไปถึงอุปกรณ์และเครื่องมือที่ประหยัดพลังงานก็มีความต้องการมากขึ้น ประกอบการกับที่ต้นทุนพลังงานลมและแสงอาทิตย์ลดลงอย่างมาก (ถูกกว่าต้นทุนจากฟอลซิลและถ่านหิน) ทำให้หุ้นที่เน้นความยั่งยืนมีโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากขึ้น
ผลการดำเนินงานของกองทุน B-SIP ณ 31 มี.ค. 2564
ดัชนีชี้วัด หมายถึง ดัชนี MSCI ACWI Net Total Return USD ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทน เป็นสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน
B-SIP จัดตั้ง 10 มี.ค. 2564
สัดส่วนการลงทุน ณ 31 มี.ค. 2564
Disclaimer: เอกสารนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ และบริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มิได้มีวัตถุประสงค์ชักชวน ชี้นำ ให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจลงทุนทางการเงิน หรือการตัดสินใจในทางธุรกิจแต่อย่างใด ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังและวิจารณญาณจากการใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดของเอกสารฉบับนี้ ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต