Highlight
- หุ้นที่ส่งผลบวกต่อกองทุน 3 อันดับแรก คือ Health Catalyst, Alphabet และ Intuitive Surgical ในขณะที่หุ้นที่ส่งผลลบต่อกองทุน 3 อันดับแรก คือ China Gas, First Solar และ Revolution Medicines
- ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองเชิงบวกกับกลุ่มสื่อสาร สินค้าฟุ่มเฟือย การแพทย์ เทคโนโลยี และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการคัดเลือกจะวิเคราะห์หุ้นแต่ละบริษัท แบบ Bottom-up และลงทุนในบริษัทที่มีการเติบโตที่ดีในระยะยาว
พอร์ตการลงทุน
หุ้นที่ส่งผลบวกต่อกองทุน 3 อันดับแรก คือ Health Catalyst, Alphabet และ Intuitive Surgical โดย Health Catalyst เป็นผู้นำด้านการใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ ราคาปรับเพิ่มขึ้นและยังได้ประโยชน์จากเม็ดเงินลงทุนในเฮลธ์แคร์ที่เพิ่มขึ้น Alphabet มีผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2021 ดีกว่าคาดการณ์ รายได้เติบโตหลักมาจากรายได้การโฆษณา ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและค้าปลีก จากความคาดหวังที่จะบริโภคมากขึ้นหลังโควิด ซึ่งผู้จัดการกองทุนมีมุมมมองบวกต่อ Alphabet ในการเป็นผู้นำของบริษัทอินเตอร์เน็ตที่ใช้นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ และการวิเคราะห์ข้อมูลในการทำธุรกิจ และ Intuitive Surgical เป็นผู้นำด้านการคิดค้นและผลิตหุ่นยนต์เพื่อใช้ในการผ่าตัด
หุ้นที่ส่งผลลบต่อกองทุน 3 อันดับแรก คือ China Gas, First Solar และ Revolution Medicines โดย China Gas ราคาหุ้นลดลงหลังจากบริษัทประกาศเพิ่มทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อทำ M&A และลงทุนเพิ่ม ซึ่งผู้จัดการกองทุนมีมุมมองเชิงบวกและเห็นว่าบริษัทยังได้ประโยชน์จากการพยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของโลก First Solar ได้รับผลกระทบจากการที่ผู้บริหารให้มุมมองว่ากำไรขั้นต้นของบริษัทอาจจะลดลงในปีนี้ ทั้งๆ ที่ผลประกอบการไตรมาส 1/2021 ออกมาดีกว่าคาด ผู้จัดการกองทุนชื่นชอบที่บริษัทเป็นผู้นำด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และมีการบริหารจัดการต้นทุนได้ดี และ Revolution Medicines ราคาลดลงจากการที่บริษัทพันธมิตร Amgen ประกาศความคืบหน้าของการพัฒนายา Shp2 เพื่อต่อต้านมะเร็ง ว่าอยูในระดับการทดสอบเท่านั้น อย่างไรก็ตามผู้จัดการกองทุนยังมองว่าบริษัทมีปัจจัยหนุนที่สำคัญกว่า คือ การรักษามะเร็งลำไส้ด้วยยีนที่ชื่อว่า KRAS ซึ่งบริษัทจะทดสอบกับมนุษย์ในปี 2022 จะทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีอย่างมีนัยสำคัญ
มุมมองในอนาคต
ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองเชิงบวกกับกลุ่มสื่อสาร สินค้าฟุ่มเฟือย การแพทย์ เทคโนโลยี และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการคัดเลือกหุ้นจะวิเคราะห์แต่ละบริษัทแบบ Bottom-up และลงทุนในบริษัทที่มีการเติบโตที่ดีในระยะยาว
เมื่อพิจาณาธีมการลงทุนแล้ว กองทุนลงทุนในบริษัทนวัตกรรมจากหลากหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า (Keyence, NVIDIA, Alphabet, Aptive), ฟินเทค (Anima, Visa, PayPal), ปัญญาประดิษฐ์ (Alibaba, Alphabet, Facebook), Connected World (Netflix, Amazon), New Retail (Amazon, Shake Shack, Wingstop, Nike), เฮลธ์แคร์ (Bristol Myers Squibb, AstraZeneca, Regeneron, Global Blood Theraphy, Ultragenyx, Teladoc), การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (First Solar, Hannon Armstrong) และการบริโภคยุคใหม่ (Tencent, Electronic Arts)
ผลการดำเนินงานของกองทุน B-GTO ณ 31 พฤษภาคม 2564
ข้อมูลกองทุนหลัก : Wellington Global Innovation Fund ณ 30 เมษายน 2564
Disclaimer: เอกสารนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ และบริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มิได้มีวัตถุประสงค์ชักชวน ชี้นำ ให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจลงทุนทางการเงิน หรือการตัดสินใจในทางธุรกิจแต่อย่างใด ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังและวิจารณญาณจากการใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดของเอกสารฉบับนี้ ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต