CNBC รายงานว่า ตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง หรือ High yield bond ซึ่งเป็นสินทรัพย์ลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดในกลุ่มตลาดการเงิน มีแนวโน้มได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยอัตราผลตอบแทน (yield) ของตราสารหนี้กลุ่มนี้ซึ่งมีมูลค่ารวม 10.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในตลาด อยู่ในระดับต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังจากที่ผ่านปีแห่งความวุ่นวาย บริษัทอเมริกันหลายแห่งเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ก็มีกลุ่มที่มีงบดุลแข็งแกร่งเป็นพิเศษ
ปกติอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่ลดลงจะมาพร้อมราคาที่สูงขึ้น เพราะอัตราผลตอบแทนกับราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกัน ล่าสุด กลุ่มตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูงให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.97% ตามข้อมูลของ ICE Bank of America High-Yield index เพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุด 3.89% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่เดือน มี.ค. 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดของความผันผวนที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ปรับขึ้นไปสูงถึง 9.2%
ช่วงเวลานี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ผลตอบแทน High yield bond ต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งล่าสุดเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 5.4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทน High yield bond กับพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุเท่ากัน ลดลงเหลือ 3.05% ซึ่งก็เป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2007
Collin Martin นักกลยุทธ์ตราสารหนี้ของ Charles Schwab กล่าวว่า การที่บริษัทที่ได้รับการจัดอันดับไม่ดีนัก จ่ายผลตอบแทน High yield bond ได้ต่ำกว่า 4% ยังไม่น่ากังวลว่าจะเกิดปัญหาการออกตราสารหนี้ประเภทนี้เพิ่มจนกลายเป็นฟองสบู่ เพราะบริษัทต่างๆ ผ่านมรสุมปีที่ผ่านมาได้ และมีสถานะที่ดี ขณะที่นักลงทุนมองหาผลตอบแทนที่ดี จึงพร้อมเข้าลงทุนในทุกอย่างที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า 0% เราจึงเห็นส่วนต่างที่ลดลงถึงระดับก่อนเกิดวิฤติการเงิน