เว็บไซต์ข่าว Vietnamnews รายงานว่า ปัจจุบันเวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดอี-คอมเมิร์ซที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โดยตลาดมีการเร่งตัวขึ้นอย่างมากในปี 2020-2021 เนื่องจากผู้ซื้อต่างต้องติดอยู่แต่ที่บ้านทำให้แห่กันไปซื้อสินค้าบนออนไลน์มากขึ้น
Paul Fisher หัวหน้าประจำประเทศเวียดนามของ JLL Jones Lang LaSalle หรือว่า JLL บริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก กล่าวว่า การขนส่งมีความสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตของตลาดอี-คอมเมิร์ซเวียดนาม ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์จากต่างประเทศจำนวนมากพยายามที่จะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของตลาด
รายงานฉบับล่าสุดของ JLL ระบุว่า การลงทุนด้านโลจิสติกส์และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมในเอเชียแปซิฟิกจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เนื่องจากนักลงทุนมองหากลุ่มสินทรัพย์ดังกล่าวมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่า มูลค่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 5-6 หมื่นล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่ 2.5-3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ อาคารโลจิสติกส์และอุตสาหกรรม ซึ่งประกอบด้วยคลังสินค้า ห่วงโซ่อุปทาน และโรงงานผลิต จะเห็นการลงทุนที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้ครอบครองที่เพิ่มขึ้นในภาคธุรกิจดังกล่าว
รายงานยังระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วิวัฒนาการของบริการอี-คอมเมิร์ซและบริการโลจิสติกส์ ทั้งประเด็นการมีส่วนร่วมของนักลงทุน และองค์ประกอบภายในของผู้ครอบครองสินทรัพย์ที่เกี่ยวโยงกับโลจิสติกส์และอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
Tom Woolhouse หัวหน้าฝ่ายโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ JLL กล่าวว่า ทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในการจัดสรรสินทรัพย์และเครือข่ายห่วงโซ่อุปทาน หรือที่เรียกว่า ซัพพลายเชน ได้หลอมรวมเข้าด้วยกัน การลงทุนที่เพิ่มขึ้นด้านโลจิสติกส์และอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์การครอบครองสำหรับสินทรัพย์คุณภาพสูงและการเปลี่ยนองค์ประกอบไปสู่ตลาดของผู้ครอบครอง ภายใต้ ‘เศรษฐกิจใหม่’ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของอี-คอมเมิร์ซและซัพพลายเชนที่ใช้เทคโนโลยี