เว็บไซต์สภาเศรษฐกิจโลก หรือ weforum.org รายงานว่า สิ่งปลูกสร้าง มีสัดส่วน 40% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอน ดังนั้นนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ นักพัฒนา และผู้ครอบครองอสังหาฯ จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะมีส่วนในการไปสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ได้
หากจะต้องจัดการกับอาคารเก่า เครื่องจักรและวัตถุดิบที่มีอยู่แล้วคงจะเป็นเกมที่มีราคาแพง รวมถึงการจูงใจให้ซัพพลายเออร์หลายพันรายในการใช้ทางเลือกที่มีราคาประหยัดลงมีผลกระทบต่ำ ด้วยเหตุนี้จึงไม่อาจให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพียงกลุ่มเดียวในภาครัฐหรือภาคเอกชนที่มีความสามารถด้านทรัพยากรหรือความสามารถจัดการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนดำเนินการได้สำเร็จโดยลำพัง
ในการจัดการความท้าทายของการลดปล่อยก๊าซคาร์บอนนั้น ระบบนิเวศของพันธมิตรจะต้องได้รับความร่วมมือระหว่างเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุน และองค์กรผู้ครอบครอง รวมถึงรัฐบาลระดับชาติ ระดับเมือง สถาบันการศึกษา กลุ่มพนักงาน และองค์กรชุมชนด้วย เพื่อทำงานร่วมกันไปสู่เป้าหมายความยั่งยืนร่วมกัน
ทั้งนี้ ล่าสุด JLL เพิ่งทำผลสำรวจผู้ครองครองอสังหาริมทรัพย์และนักลงทุนกว่า 1,000 รายทั่วโลกเพื่อวัดระดับความมุ่งมั่นในระดับอุตสาหกรรมและเพื่อสำรวจอุปสรรคที่พวกเขาเผชิญในการเดินทางไปสู่การลดปล่อยก๊าซคาร์บอน ซึ่ผลสำรวจพบว่า มีการสนับสนุนในวงกว้างขึ้นสำหรับการทำงานร่วมกัน โดยองค์กรจำนวนมากตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเอาไว้ แต่กลับพบว่า 80% ของผู้ตอบ เห็นด้วยว่า การมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งระหว่างรัฐบาลเมือง ผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ และนักลงทุน เป็นเครื่องมือที่จะขับเคลื่อนวาระการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์
สำหรับ 5 แนวทางที่รัฐบาลของเมืองและผู้นำจะร่วมมือเพื่อการลดคาร์บอนเป็นศูนย์ ได้แก่ 1.มองว่าผู้ที่่อยู่ในภาคอสังหาฯ เป็นพันธมิตรในการเปลี่ยนเมืองระยะยาวไปสู่การลดปล่อยก๊าซคาร์บอน 2.สร้างสมดุลระหว่างการควบคุมและการสนับสนุน 3.การแบ่งปันความรู้ร่วมกัน 4.การจัดการความท้าทายในด้านการติดตั้งต่างๆ และ 5.ขยายขนาดการใช้เทคโนโลยี