สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Neel Kashkari ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขามินนีแอโพลิส ระบุว่า เป็นเรื่องสมเหตุสมผลถ้า Fed จะเริ่มทำ taper หรือการลดการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วยการลดซื้อพันธบัตรในช่วงปลายปีนี้ โดยก็ต้องขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในตลาดแรงงานด้วย

“มีคำถามมาว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่ Fed จะชะลอการซื้อพันธบัตรซึ่งในเวลานี้ซื้ออยู่ 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐทุกเดือน” Kashkari กล่าว

ทั้งนี้ สาธารณชนถกเถียงกันว่า Fed จะเริ่มลดการซื้อสินค้าทรัพย์ปลายปีนี้หรือไม่ หรือต้นปีหน้า ซึ่งช่วงเวลาเหล่านี้ก็มีความสมเหตุสมผลที่ Fed จะดำเนินการ แต่ท้ายที่สุดแล้วการดำเนินการก็จะถูกขับเคลื่อนจากข้อมูลที่ได้รับมา

หนึ่งในผู้กำหนดนโยบายที่เข้มงวดที่สุดในคณะกรรมการ Fed ตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมีเสียงคัดค้านเล็กน้อยภายในธนาคารกลางในประเด็นที่จะลดการสนับสนุนอย่างมากที่มีต่อเศรษฐกิจ โดย Kashkari เนื่องจากตลาดแรงงานยังไม่ได้รับการเติมเต็ม ขณะที่การซื้อพันธบัตรรัฐบาลและหลักทรัพย์ค้ำประกันของ Fed มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนการเติบโต ด้วยการลดต้นทุนการกู้ยืมในระยะยาวลง

สำหรับประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้น Kashkari กล่าวว่า คงจะเป็นอีกไม่กี่ปีในอนาคต เพราะ Fed ให้คำมั่นว่าจะไม่ทำจนกว่าเศรษฐกิจจะมีการจ้างงานเต็มที่ และอัตราเงินเฟ้อซึ่งเวลานี้ไต่ขึ้นชั่วคราว เมื่อเวลาผ่านไปแล้วจะไปสู่เป้าหมายค่าเฉลี่ย 2% ที่ Fed ตั้งไว้

เขา กล่าวว่า เราต้องมาดูกันว่าช่วงท้ายของปีนี้จะเกิดอะไรขึ้นในเชิงของการลดซื้อสินทรัพย์ และอะไรจะเกิดขึ้นในปีหน้าในแง่ของอัตราเงินกองทุนที่แท้จริงของรัฐบาล