CNBC รายงานว่า การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นและมาตรการของรัฐบาลกลาง ส่งผลให้ชาวอเมริกันจำนวนมากไม่ต้องเสียภาษีเงินได้หรือได้รับเครดิตภาษีจากรัฐบาล ตามข้อมูลรายงานของศูนย์นโยบายภาษี Urban-Brookings พบว่า มี 107 ล้านครัวเรือน หรือ 61% ของจำนวนผู้เสียภาษีทั้งหมด ที่ไม่ต้องเสียภาษีรายได้ในปี 2020 เพิ่มขึ้นจาก 76 ล้านครัวเรือน หรือ 44% ของผู้เสียภาษีทั้งหมดในปี 2019
Howard Gleckman เจ้าหน้าที่อาวุโส ศูนย์นโยบายภาษี กล่าวว่า จำนวนคนอเมริกันที่ไม่ต้องเสียภาษีรายได้ที่มีมาก เป็นเรื่องชั่วคราวจริงๆ โดยเหตุผลหลักมาจากจำนวนผู้ว่างงานที่สูงขึ้น มาตรการแจกเช็คเงินสด และโปรแกรมเครดิตภาษี ซึ่งทั้งหมดนี้จะหมดอายุหลังจากปี 2022 ดังนั้นก็จะเห็นจำนวนผู้ที่ไม่ต้องเสียภาษีลดลงอีกครั้งเมื่อเริ่มต้นในปีหน้า
ศูนย์นโยบายภาษีของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า สัดส่วนของคนอเมริกันที่ไม่ต้องเสียภาษีจะยังสูงอยู่ หรือประมาณ 57% ในปี 2021 และน่าจะลดลงเหลือ 42% ในปี 2022 จากนั้นจะยังอยู่ที่ประมาณ 41-42% ไปจนถึงปี 2025 เป็นผลจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและนโยบายสิทธิประโยชน์ทางภาษีแบบชั่วคราวหลายๆ อย่างจะหมดอายุลงตามเวลา
ผู้เสียภาษีจำนวนมากมั่นใจว่าในสภาคองเกรซต้องมีการอภิปรายประเด็นภาษีที่สูงขึ้นสำหรับผู้ที่ร่ำรวย โดยสมาชิกพรรคเดโมแครตจำนวนมาก ระบุว่า คนร่ำรวยไม่ได้จ่ายภาษีในสัดส่วนที่เป็นธรรม เมื่ออ้างถึงบทความที่เผยแพร่ใน ProPublica สะท้อนว่า มหาเศรษฐีพันล้าน รวมถึง Jeff Bezos และ Carl Icahn ไม่ได้จ่ายภาษีรายได้ให้รัฐบาลกลางบางปี
ในร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการพิสูจน์ยอดเงินมูลค่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะรวมการเพิ่มภาษีกำไรจากการลงทุน การเพิ่มอัตราภาษีสูงสุดสำหรับรายได้ปกติที่สูงขึ้น การเพิ่มภาษีนิติบุคคลสูงขึ้น และมาตรการอื่นๆ ซึ่งมีเป้าหมายไปยังกลุ่มที่มีเงินได้ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไป