Highlight
- หุ้นโลกปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 โดยมีปัจจัยหนุนมาจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น มีมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ บริษัทจดทะเบียนมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และประชากรทั่วโลกมีอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงขึ้น
- ไตรมาส 2/2021 ผู้จัดการกองทุนขายกำไรในหุ้นกลุ่มอุตสาหรรม เพราะราคาปรับเพิ่มขึ้นมามากจากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวและการเพิ่มขึ้นของดีมานด์ โดยได้ลงทุนต่อในหลายอุตสาหกรรมและเลือกหุ้นที่ราคายังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง
- ผู้จัดการกองทุนหลักยังคงมุ่งรักษาความสมดุลย์ของพอร์ตการลงทุนระหว่างหุ้นวัฎจักรและหุ้นเติบโต (Cyclical and Growth) การคัดเลือกหุ้นรายตัวเป็นสิ่งที่สำคัญ ในจังหวะที่นโยบายเชิงมหภาคของแต่ละประเทศมีความสำคัญกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างมาก ทำให้เห็นโอกาสการลงทุนในช่วงที่ตลาดอาจเกิดความผันผวนจากนโยบายดังกล่าว
ภาพรวมตลาด
- หุ้นโลกปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 โดยมีปัจจัยหนุนมาจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น มีมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ บริษัทจดทะเบียนมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และประชากรทั่วโลกมีอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงขึ้น
- อย่างไรก็ตาม ปัจจัยราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น สถานการณ์ที่ผู้บริโภคกลับมาจับจ่ายใช้สอยหลังวิกฤต ภาวะที่ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกขาดแคลน และเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากแรงหนุนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ธนาคารกลางบางแห่ง จึงพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือปรับใช้นโยบายทางการเงินที่เข้มงวดขึ้น
- ตั้งแต่ต้นปีกลุ่มวัฎจักร (Cyclical) มีผลการดำเนินงานที่ดีกว่ากลุ่มเติบโต (Growth) นำโดยกลุ่ม กลุ่มสื่อสาร กลุ่มพลังงาน และกลุ่มการเงิน แต่ราคาหุ้นกลุ่มเติบโตก็เริ่มปรับตัวขึ้นในช่วงกลางไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
พอร์ตการลงทุน
- ไตรมาส 2/2021 ผู้จัดการกองทุนขายกำไรในหุ้นกลุ่มอุตสาหรรม เพราะราคาปรับเพิ่มขึ้นมามากจากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวและการเพิ่มขึ้นของดีมานด์ โดยได้ลงทุนต่อในหลายอุตสาหกรรมและเลือกหุ้นที่ราคายังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง
- การลงทุนในหุ้นที่ส่งผลบวกกับพอร์ตการลงทุน คือ หุ้นในกลุ่มสื่อสารและเฮลธ์แคร์ ซึ่งทั้งสองกลุ่มราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น Cellnex Telecom บริษัทด้านสื่อสารของสเปน Wuxi Biologic ของจีน และ AstraZeneca ของสหราชอาณาจักร
- ในขณะที่การลงทุนที่ส่งผลเชิงลบกับพอร์ต คือ Global Payment ซึ่งเป็นบริษัทด้านการชำระเงินที่ประกาศผลประกอบการออกมาได้ดีเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ แต่นักลงทุนในตลาดมองว่าบริษัทมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นในตลาด จึงทำให้ราคาลดลง และการไม่มีหุ้น Nvidia ในพอร์ต เพราะผู้จัดการกองทุนมองว่าราคาสูงกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น
มุมมองในอนาคต
- เศรษฐกิจของโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวจากการผ่อนคลายการล๊อคดาวน์ อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวยังคงมีภาพที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค ทำให้การลงทุนยังคงมีความผันผวนอยู่ทั้งด้านภูมิภาค อุตสาหกรรม และตลาดของแต่ละประเทศเอง ซึ่งผู้จัดการกองทุนจะเน้นลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นได้ดี ในจังหวะราคาที่เหมาะสม
- ผู้จัดการกองทุนหลักยังคงมุ่งรักษาความสมดุลย์ของพอร์ตการลงทุนระหว่างหุ้นวัฎจักรและหุ้นเติบโต (Cyclical and Growth) การคัดเลือกหุ้นรายตัวเป็นสิ่งที่สำคัญ ในจังหวะที่นโยบายเชิง มหภาคของแต่ละประเทศมีความสำคัญกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างมาก ทำให้เห็นโอกาสการลงทุนในช่วงที่ตลาดอาจเกิดความผันผวนจากนโยบายดังกล่าว เช่น การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มุมมองด้านเงินเฟ้อ มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ เป็นต้น
ผลการดำเนินงานของกองทุน B-GLOBAL และ B-GLOBALRMF ณ 30 ก.ค. 2564
ข้อมูลกองทุนหลัก : Wellington Global Opportunities Equity Fund ณ 30 ก.ค. 2564
