BF Economic Research
GDP จีน ไตรมาส 3/2021 ขยายตัว 4.9% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 5.0% ชะลอตัวลงจาก 7.9% ในไตรมาสก่อน ขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน GDP ขยายตัว 0.2% QoQ (vs. 1.2% ไตรมาสก่อน) สำหรับ GDP Growth ทั้งสามไตรมาสอยู่ที่ 9.8% YoY YTD (ทั้งนี้ทางการจีนตั้งเป้า GDP Growth ทั้งปี 2021 ที่ “เหนือ 6.0%”)
ด้านตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจเดือน ก.ย. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าและแย่กว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ยอดค้าปลีกฟื้นตัวขึ้นดีกว่าคาด
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) เดือน ก.ย. ขยายตัว 3.1% YoY ชะลอตัวลงจาก 5.3% ในเดือนก่อน โดยผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงขยายตัวเป็นบวกได้ 18 เดือนติดต่อกันแต่อัตราเติบโตในเดือน ก.ย.นี้เป็นอัตราต่ำสุด และยังต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 3.8% จากผลกระทบของภาวะขาดแคลนพลังงาน และ Chip Shortage ในรายสินค้าพบว่ากลุ่มที่หดตัวได้แก่ สิ่งทอ (-5.8% vs. -2.5% เดือนก่อน), เหล็ก (-9.7% vs. -5.3% เดือนก่อน), เคมีภัณฑ์ (-1.1% vs. 5.5% เดือนก่อน), สินแร่ที่ไม่ใช่โลหะ (-1.1% vs. 4.4% เดือนก่อน) และกลุ่มที่ชะลอลง ได้แก่ อุปกรณ์ทั่วไป (3.0% vs. 6.7% เดือนก่อน), แปรรูปอาหาร (2.8% vs. 7.2% เดือนก่อน) ในรายสินค้าพบว่าซีเมนต์ (-13.0% vs. -5.2% เดือนก่อน) และรถยนต์ (-13.7% vs. -19.1% เดือนก่อน) ยังหดตัว
- ส่วนยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือน ก.ย. ขยายตัว 4.4% YoY เร่งตัวขึ้นจาก 2.5% ในเดือนก่อน และสูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 3.5% โดยกลุ่มที่ขยายตัวดีได้แก่ อัญมณี (20.1 % vs. 7.4 % เดือนก่อน), เครื่องสำอาง (3.9 % vs. 0% เดือนก่อน), ของใช้ส่วนตัว (0.5 % vs. -0.2 % เดือนก่อน), โทรคมนาคม (22.8 % vs. -14.9 % เดือนก่อน), เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน (6.6 % vs. -5.0 % เดือนก่อน), ส่วน เฟอร์นิเจอร์ (3.4 % vs. 6.7 % เดือนก่อน), และวัสดุก่อสร้าง (13.3 % vs. 13.5 % เดือนก่อน) ขยายตัวชะลอลง ด้านสินค้าที่ยอดขายหดตัวต่อเนื่องได้แก่ สิ่งทอ (-4.8 % vs. -6 % เดือนก่อน), และยานยนต์ (-11.8 % vs. -7.4 % เดือนก่อน) ทั้งนี้ยอดค้าปลีก 9 เดือนโต 16.4 % YoY YTD
- ด้านการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Fixed Assets Investment) เดือน ก.ย. ขยายตัว 7.3% YoY YTD ชะลอตัวลงจาก 8.9% ในเดือนก่อน และต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อยที่ 7.8% โดยชะลอตัวลงในทุกหมวดหลักทั้งการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ (8.8% vs. 10.9% เดือนก่อน), การลงทุนในภาคการผลิต (14.8% vs. 15.7% เดือนก่อน) และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (1.5% vs. 2.9% เดือนก่อน) โดยการลงทุนชะลอตัวลงทั้งในส่วนของการลงทุนของธุรกิจเอกชน (9.8% vs. 11.5% เดือนก่อน) และการลงทุนของธุรกิจภาครัฐ (SOEs) (5.0% vs. 6.2% เดือนก่อน)
การส่งออกเดือน ก.ย. ขยายตัวดีกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่นำเข้าชะลอลงมากกว่าคาด สะท้อนอุปสงค์ในประเทศอ่อนแอลง
- ยอดส่งออก (Exports) เดือน ก.ย. ขยายตัว 28.1% YoY เร่งตัวขึ้นจาก 25.6% ในเดือนก่อน สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะชะลอลงเป็น 21.0%
- โดยในรายประเทศ ยอดส่งออกเร่งตัวขึ้นใน สหรัฐฯ (30.6% YoY vs. 15.5% เดือนก่อน), EU (28.6% vs. 29.4% เดือนก่อน) และ ASEAN (17.3% vs. 16.6% เดือนก่อน) แต่ละชะลอตัวลงใน ญี่ปุ่น (15.2% vs. 19.5% เดือนก่อน) และ เกาหลีใต้ (27.9% vs. 47.6% เดือนก่อน)
- ในรายสินค้า ยอดส่งออกกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (14.6% YoY vs. 12.8% เดือนก่อน) และแผงวงจร (32.7% vs. 38.9% เดือนก่อน) และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ (15.8% vs. 16.5% เดือนก่อน), เครื่องใช้ในครัวเรือน (38.8% vs. 33.2% เดือนก่อน) และหลอดไฟบ้าน (35.1% vs. 27.1% เดือนก่อน) ยังคงขยายตัวสูง ด้านกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันเชื้อ COVID-19 อย่างสินค้ากลุ่มพลาสติก (11.6% vs. 6.7% เดือนก่อน) และกลุ่มผ้าและสิ่งทอ (-5.6% vs. -14.9%เดือนก่อน) ฟื้นตัวขึ้น
- ส่วนยอดนำเข้า (Imports) ขยายตัว 17.6% YoY ชะลอตัวลงจาก 33.1% ในเดือนก่อน และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 20.0% ส่งผลให้ดุลการค้าเดือน ก.ย. เกินดุล USD66.76bn เพิ่มขึ้นจาก USD58.3bn ในเดือนก่อน
ยอดปล่อยสินเชื่อเดือน ก.ย. ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ส่วนหนึ่งจากยอดปล่อยสินเชื่อนอกภาคธนาคารที่หดตัวเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มความเข้มงวดโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมภาคอสังหาฯ และยอดออกหุ้นกู้เอกชนที่ชะลอลงมาก
- ยอดระดมทุนรวมสุทธิ (Total Social Financing) เดือน ก.ย. อยู่ที่ RMB2,900bn ชะลอตัวลงจาก RMB2,956bn ในเดือนก่อน และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ RMB3,105.0bn โดยยอดปล่อยกู้เงินหยวน (New Yuan Loans) อยู่ที่ RMB1,660bn เร่งตัวขึ้นจาก RMB1,220bn ในเดือนก่อน แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ RMB1,810bn
- ด้านยอดออกหุ้นกู้เอกชน (Corporate Bonds) ชะลอตัวลงเป็น RMB140bn (vs. RMB 434.1 bn เดือนก่อน) และยอดออกพันธบัตรรัฐบาล (Government Bonds) ชะลอตัวเล็กน้อยเป็น RMB810.9bn (vs. RMB 973.8 bn เดือนก่อน) แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง
- ขณะที่สินเชื่อนอกภาคธนาคาร (Shadow Banking Credit) ซึ่งได้แก่ Trust Loans, Entrusted Loans และ Undiscounted Bankers’ Acceptance ติดลบมากขึ้นอยู่ที่ RMB -213.6bn (vs. RMB -136bn เดือนก่อน)
- เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ยอดระดมทุนรวมสุทธิคงค้างในระบบ (Outstanding TSF) ชะลอตัวลงเป็น 10.0% YoY จาก 10.3% ในเดือนก่อน ระดับราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคจีนห่างออกจากกันเรื่อยๆ
- ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการเพิ่มขึ้นของราคาถ่านหินเป็นหลัก ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างจำกัดจากการลดลงของราคาเนื้อหมู แม้ว่าราคาเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยายตัว 0.7% YoY ในเดือน ก.ย. ชะลอตัวจากที่ขยายตัว 0.8% ในเดือน ส.ค. และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 0.9% โดยราคาหมูหดตัวต่อเนื่อง -46.9% YoY (vs. -44.9% เดือนก่อน) ขณะที่ราคาเชื้อเพลิงซึ่งเป็นหมวดย่อยในกลุ่มขนส่งยังขยายตัวสูง 22.8% YoY (vs. 22.1% เดือนก่อน) ส่วนราคาเชื้อเพลิงที่เป็นหมวดย่อยในกลุ่มครัวเรือนขยายตัวที่ 2.6% (vs. 1.8% เดือนก่อน)
- ด้านดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยายตัว 10.7% YoY ในเดือน ก.ย. สูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติในปี 1996 เร่งตัวขึ้นจาก 9.5% ในเดือนก่อน และสูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 10.5% เร่งตัวจากกลุ่มขุดเจาะ (49.4% vs. 41.8% เดือนก่อน), วัตถุดิบ (20.4% vs. 18.3 % เดือนก่อน), และกลุ่มกระบวนการผลิต (8.9% vs. 8% เดือนก่อน)
โดยสรุป
- IMF ประเมินว่า GDP จีนในปีนี้จะขยายตัว 8.0% (vs. 8.1% คาดการณ์เดิมในเดือน ก.ค.) ซึ่งยังคงสูงกว่าเป้าที่ทางการจีนตั้งไว้ที่ ‘มากกว่า 6%’
- การดำเนินนโยบายการเงินของ PBoC หลังจากนี้น่าจะเน้นไปในการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก มากกว่าการให้ความช่วยเหลือเป็นวงกว้าง โดยนาย Yi Gang ผู้ว่าฯ PBOC เขียนในบทความเมื่อปลายเดือน ก.ย. ว่าจีนจะคงนโยบายการเงินตามปกติให้นานที่สุดตราบใดที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนยังคงอยู่ในช่วงเป้าหมายที่ 6% โดยมีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลด RRR ในช่วงที่เหลือของปี หากตัวเลขเศรษฐกิจยังคงชะลอลงต่อเนื่อง
- ด้านความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจาก Evergrande ทั้งนาย Yi Gang ผู้ว่าฯ PBoC และนาย Zou Lan ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดการเงินของ PBoC ระบุว่าความเสี่ยงของ Evergrande นั้น “ควบคุมได้” โดยนาย Zou กล่าวเสริมว่ารัฐบาลจะปกป้องผู้บริโภคทุกรายและให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับการเริ่มก่อสร้างใหม่ และยังระบุว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่มีการดำเนินงานที่มั่นคงและมีตัวชี้วัดทางการเงินที่ดี