China Daily รายงานว่า ธนาคารกลางจีนออกมาประกาศว่า อัตราส่วนเงินสำรองที่สถาบันการเงินต่างๆ จะต้องมีไว้ จะถูกปรับลดลง ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. เป็นต้นไป เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดมากขึ้น
ธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราส่วนเงินสำรองที่สถาบันการเงินต่างๆ จะต้องมีประมาณ 0.5% ยกเว้นรายที่ได้รับการกำหนดอัตราส่วนไว้ที่ 5% อยู่แล้ว โดยหลังจากที่ปรับลดอัตราส่วนเงินสำรอง จะทำให้สัดส่วนเงินสำรองที่สถาบันการเงินต้องมีจะอยู่ที่ 8.4%
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจที่แท้จริง และลดต้นทุนทางการเงิน โดยธนาคารกลางจีน ระบุว่า เพื่อการดำเนินนโยบายการเงินอย่างรอบคอบต่อไป จะไม่ใช้การผ่อนคลายทางการเงินเชิงรุกออกมาในรูปมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จะปรับปรุงสิ่งที่เชื่อมโยงในวัฎจักรและการเชื่อมโยงนโยบายมหภาคที่ดีขึ้นจากปีนี้ไปสู่ปีหน้า
สัดส่วนเงินสำรองที่ลดลง คาดว่าจะเป็นการปล่อยเม็ดเงิน 1.2 ล้านล้านหยวน หรือ 188,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกมา ช่วยลดต้นทุนให้สถาบันการเงินได้ 15,000 ล้านหยวนต่อปี
สำหรับการลดสัดส่วนเงินสำรองครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากที่ Li Keqiang นายกรัฐมนตรีจีน ประชุมร่วมกับ Kristalina Georgieva กรรมการผู้จัดการ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา