ทำไมต้องใช้ DCA รับมือตลาดปีเสือ

ทำไมต้องใช้ DCA รับมือตลาดปีเสือ

สรุปความสัมภาษณ์

เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP®

ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน

เริ่มต้นปีใหม่กันได้ไม่นาน หลายคนก็คาดหวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของการลงทุน แต่ถ้าดูสถานการณ์โดยรวมแล้วเราต้องยอมรับว่าการลงทุนในปัจจุบันทำได้ยากขึ้น โดยเฉพาะในปีนี้ ซึ่งก็ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว

สถานการณ์โควิดยังคงอยู่ แม้ว่าจะค่อยๆ ดีขึ้น การปรับเปลี่ยนต่างๆ นโยบายต่างๆ ของแต่ละประเทศก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งก็จะมีการเลือกตั้งใหญ่ของหลายๆ ประเทศ ซึ่งก็อาจกระทบต่อภาพรวมของตลาดเงินตลาดทุนได้

อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามองว่าการลงทุนเป็นสิ่งที่จำเป็นในภาวะที่เงินเก็บเงินออมของเรา จะพึ่งพิงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอย่างเดียวไม่ได้ การลงทุนในตลาดหุ้นหรือกองทุนที่มีสัดส่วนของหุ้นก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น

  • ลงทุนแบบไหนถึงได้ผลตอบแทนดีที่สุด

ถามว่าวิธีการลงทุนที่ดีที่สุดเป็นอย่างไร ตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับสไตล์การลงทุนของแต่ละคนว่าเป็นยังไง ชอบแบบไหน มีจริตหรือมีความต้องการแบบไหน

นี่ไม่ใช่แค่การเลือกผลิตภัณฑ์ว่าจะเลือกกองทุนไหน กระจายการลงทุนยังไง กระจายความเสี่ยงแบบไหน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดี ตามระดับความเสี่ยงที่เราคาดการณ์ นี่เป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์ สิ่งที่เราอยากพูดวันนี้คือ จริต หรือวิธีการลงทุนที่เหมาะกับแต่ละคน

หลายคนอาจจะชอบซื้อๆ ขายๆ เป็นคนตัดสินใจเอง หลายคนอาจจะบอกว่า อยากเลือกกองทุนดีๆ ใส่เงินตูมเดียวแล้วทิ้งไว้ยาวเลย อย่างนั้นก็เป็นอีกวิธี ซึ่งขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด

แต่วิธีการหนึ่งที่เราพูดกันมานานแล้ว และเราก็อยากแนะนำให้หลายท่านกลับมาทบทวนดูว่า การลงทุนแบบนี้เหมาะกับเราจริงหรือไม่ หรือเหมาะกับสถานการณ์การลงทุนที่ความไม่แน่นอนสูง มีความผันผวนสูง แล้วก็อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง อย่างในปัจจุบันรึเปล่า นั่นคือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย หรือ Dollar-Cost Averaging (DCA)

  • ลงทุนแบบถัวเฉลี่ย หรือ DCA ดียังไง

วิธีการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย หรือ DCA หลักการคือ การกระจายการลงทุน ค่อยๆ ลงทุน ข้อดีคือ ไม่ต้องใส่เม็ดเงินเข้าไปทีเดียว แล้วก็มีการกระจาย ไม่ต้องไปลุ้นจังหวะเวลาว่าตอนนี้จะซื้อหรือขายดี แบ่งเงินแล้วจัดเงินไปเลย อาจจะลงทุนกองทุนนี้ เลือกกองทุนที่มองระยะยาว แล้วคิดว่ามีโอกาสดีๆ ไว้สักกองหนึ่ง แต่เราไม่แน่ใจในเรื่องจังหวะ ความผันผวน ราคาตอนนี้ขึ้นมาสูงแล้วจะไปต่อได้หรือไม่ ใจก็ยังชอบ แต่ก็ไม่แน่ใจกับเรื่องราคา

วิธีการที่ดีคือ แบ่งเงินเท่า ๆ กัน ไม่ต้องก้อนใหญ่มากนัก เป็นรายเดือนก็ได้ เพราะ DCA นิยมทำเป็นรายเดือน แล้วเราก็ลงทุนไป สมมติจะเลือก B-INNOTECH ก็ใส่ไปเลยเดือนละ 3,000 บาท เป็นต้น เราก็วางไปเลย ตัดทุกสิ้นเดือน กลางเดือน หรือต้นเดือนก็ได้

  • ตัดเงินลงทุน DCA ช่วงไหนของเดือนดี

สำหรับช่วงไหนเหมาะกับการทำ DCA มากที่สุดนั้น เคยมีการทำสถิติในอดีตมาเทียบดู พบว่า จริงๆ แล้ว ไม่ได้มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นต้นเดือน กลางเดือน หรือปลายเดือน จะลงทุนช่วงไหนก็ได้ ตามที่เราสะดวก หรือว่าจะเป็นช่วงที่เรามีกระแสเงินสดเข้าก็ได้ เช่น เราได้รับเงินเดือนเข้าปลายเดือน ก็อาจจะตัดเงินต้นเดือนก็ได้

ข้อดีของ DCA คือ เราไม่ต้องไปคอยติดตาม ถ้าเราเลือกเราเห็นแล้วว่าอะไรเป็นเมกะเทรนด์ที่ดี จะชอบ BCARE B-INNOTECH หรือจะอยากลงทุนในกอง B-CHINE-EQ B-SIP ซึ่งเป็นกองที่เป็นเมกะเทรนด์ต่างๆ ก็เลือกไปเลย แล้วกำหนดเงิน ตั้งใจทยอยลงทุนทุกเดือนไปเลย วิธีการนี้ดีที่สุด เพราะไม่ต้องคอยกังวล คอยตาม คอยห่วง แล้วถ้าราคาตกลงมา DCA ชอบ เพราะหมายถึงการได้ซื้อในเวลาที่ราคาลงมา

ทั้งนี้ DCA คือการซื้อต่อเนื่อง ซื้อตลอดเวลา อาจเป็นเดือนละครั้ง วิธีการแบบนี้จะทำให้เรามีเงินสะสม ลงทุนในกองทุนไปเรื่อยๆ แล้วไม่ต้องไปกังวลเรื่องราคามาก เพราะเมื่อลงทุนไปเรื่อยๆ ราคาเฉลี่ยไปเรื่อยๆ คราวนี้ก็จะไม่ยึดติดแล้วว่า ราคาจะขาดทุนหรือกำไรเท่าไหร่

จังหวะที่ราคาตกลงมา ก็เป็นข่าวดี เพราะว่า วันนั้นคือวันที่เราซื้อ ไม่ใช่วันที่เราขาย เราก็อยากจะซื้อในวันที่ราคาต่ำๆ หรือว่าราคาเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ก็เป็นโอกาสดี เพราะเงินเก็บเงินออมที่เราลงทุนไว้ ก็ค่อยๆ งอกเงยเพิ่มเติม โดยเฉพาะ Theme การลงทุนที่น่าสนใจ

  • DCA กองทุนไหนดี

BBLAM มีการจัดทำข้อมูลกองทุนแนะนำให้ลูกค้า อย่าง  B-Select เป็นประจำทุกไตรมาส ซึ่งไตรมาสแรกนี้ เราก็แนะนำ 4 กองทุนด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ BCARE ก็เป็นกองทุนที่ปีที่ผ่านมาผลประกอบการกองทุนไม่ค่อยดีเทียบดัชนีโดยรวม ราคาหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์เปลี่ยนแปลง แต่กลุ่มเฮลธ์แคร์เป็น sector แห่งอนาคต เรากำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงสำคัญ เพราะฉะนั้นการลงทุนใน BCARE ก็เป็นการลงทุนที่เกาะกับเมกะเทรนด์ที่เกิดขึ้น

อีกกองทุนหนึ่งก็คือ B-INNOTECH เป็นกองทุนที่ถูกพูดถึงมากในปีที่ผ่านมา ผลประกอบการค่อนข้างดี แล้วก็เป็นกองที่มีความผันผวนต่ำ หลายคนอาจกังวลว่าราคาสูงเกินไปหรือไม่ แต่ถ้าดูเมกะเทรนด์ ดูหุ้นที่ลงทุน ดู Theme ดูวิธีคิดของผู้จัดการกองทุนหลัก ก็จะพบว่า เขามองเรื่อง fundamental หรือปัจจัยพื้นฐานของเทคโนโลยี ลงทุนในกิจการที่มีพื้นฐานแล้วก็สามารถเติบโตได้ในอนาคต เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ นี่เป็นตัวอย่างของ 2 กองทุนที่ทำ DCA ได้

สุดท้าย อยากย้ำกับผู้ลงทุนว่า ในสถานการณ์ลงทุนที่มีความผันผวน ในช่วงโควิดจะมาจะไป เศรษฐกิจกำลังจะเปลี่ยนแปลง นโยบายการเงินของประเทศกำลังจะพลิกด้าน อย่างนี้เราไม่สามารถบอกได้แน่นอนว่า ราคาไหนคือราคาที่ดี ราคาที่เหมาะสมกับการลงทุนแน่ๆ มันคาดเดาได้ยาก การ DCA จะช่วยได้

อย่างไรก็ตามการเลือกลงทุนใน DCA ขอให้เลือกลงทุนในกองทุนที่เรามองเทรนด์ระยะยาวว่ามีโอกาสลงทุนที่ดี เพราะการลงทุนในหุ้นยังไงก็มีความเสี่ยง มีโอกาส มีความผันผวน มีความไม่แน่นอน ไม่ใช่ว่าลงทุนแล้วจะได้กำไรตลอดเวลา เพียงแต่ว่าวิธีการ DCA เป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่อง market timing หรือการหาจังหวะการลงทุน เป็นเรื่องทยอยสะสมที่ดี และอยากแนะนำกับทุกท่าน