สำนักข่าวบีบีซี รายงานเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมว่า หอสังเกตุการณ์ภัยแล้งโลก (จีดีโอ) ของสหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกมาแจ้งเตือนว่าพื้นที่กว่า 2 ใน 3 ของยุโรปกำลังเผชิญกับภัยแล้งที่หนักที่สุดในรอบ 500 ปี
ตามรายงานฉบับล่าสุดของจีดีโอ ซึ่งได้แบ่งสถานการณ์ความรุนแรงของภัยแล้งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ “เฝ้าระวัง” (watching) “เตือนภัย” (warning) และ “ฉุกเฉิน” (alert) ได้ระบุว่า พื้นที่ของยุโรปราว 47% ประสบปัญหาภัยแล้งในระดับเตือนภัย และมีอีกกว่า 17% ที่เผชิญภัยแล้งขั้นสูงสุดในระดับฉุกเฉิน
มารียา กาเบรียล กรรมาธิการวิจัยของจีดีโอ กล่าวว่า ปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเด่นชัดขึ้นทุกปี และสถานการณ์ภัยแล้งที่ปรากฏในภูมิภาคยุโรป ณ ตอนนี้น่าจะเป็นภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดอย่างน้อยๆ ในรอบ 500 ปี โดยคลื่นความร้อนที่พัดผ่านยุโรปอยู่ในตอนนี้ ก็ได้ส่งผลร้ายแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนต่อระดับน้ำในแหล่งน้ำทั้งหมดของยุโรป อีกทั้งยังมีเหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นบ่อยกว่าค่าเฉลี่ยจนส่งผลกระทบต่อการผลิตพืชผล
ผลจากภัยแล้งส่งผลให้ยุโรปต้องเผชิญกับการขาดแคลนน้ำ โดยระดับน้ำในแม่น้ำของยุโรปได้แห้งขอดจนปรากฏซากเรือรบจากสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และ “หินของผู้หิวโหย” ซึ่งเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นความวิกฤตของภัยแล้ง ทำให้เกิดปัญหาทั้งในภาคการเกษตร ซึ่งอียูได้คาดการณ์แล้วว่า ผลผลิตทางการเกษตรของปีนี้จะลดลงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โดยการเก็บเกี่ยวเมล็ดข้าวโพดจะลดลง 16% ส่วนปริมาณถั่วเหลืองจะลดลง 15% รวมถึงเมล็ดทานตะวันที่จะลดลง 12% อีกทั้งในภาคพลังงานก็ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำที่แห้งขอด ทำให้โรงผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ส่งผลให้ปริมาณไฟฟ้าพลังงานน้ำลดลงถึง 20%
ทั้งนี้ รายงานของจีดีโอยังได้เตือนอีกว่า สถานการณ์ภัยแล้งในยุโรปนี้กำลังแย่ลงในหลายประเทศของยุโรป อาทิ อิตาลี สเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส เยอรมนี เบลเยียม และอื่นๆ อีกทั้งในพื้นที่ทางตอนใต้ของยุโรปอาจจะต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางอากาศนี้ยาวนานไปอีกหลายเดือน
ที่มา: บีบีซี