สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม  2565 ว่า รัสเซียตัดสินใจระงับการมีส่วนร่วมในข้อตกลงการส่งออกธัญพืชในทะเลดำ ซึ่งมีแนวโน้มว่า จะกระทบกับการขนส่งไปยังประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้า นั่นจะทำให้วิกฤติอาหารโลกทวีความรุนแรงขึ้น และราคาสินค้าสูงขึ้นอีก

โดยผู้ค้าข้าวสาลี 2 รายในสิงคโปร์ กล่าวว่า  ข้าวสาลีหลายแสนตันที่จองไว้สำหรับจัดส่งไปยังแอฟริกาและตะวันออกกลางมีความเสี่ยงหลังจากการถอนตัวของรัสเซีย ในขณะที่การส่งออกข้าวโพดของยูเครนไปยังยุโรปจะลดลง

โดยในวันเสาร์ รัสเซียระงับการมีส่วนร่วมในข้อตกลงธัญพืชของสหประชาชาติ ซึ่งยังไม่มีการระบุระยะเวลาที่แน่นอน หลังจากการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ของยูเครนบนกองเรือทะเลดำในแหลมไครเมีย

ซึ่งสัญญาข้าวสาลีล่วงหน้าในชิคาโก เมื่อวันจันทร์พุ่งขึ้นมากกว่า 5% และข้าวโพดปรับตัวสูงขึ้นกว่า 2% จากความกังวลเกี่ยวกับกำลังการผลิต โดยเมื่อต้นปีนี้ราคาข้าวสาลีทั่วโลกพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และข้าวโพดแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากการที่รัสเซียบุกยูเครน ซ้ำเติมปัจจัยลบที่เกิดจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยและการหยุดชะงักของกำลังการผลิตในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 

อย่างไรก็ตาม องค์การสหประชาชาติ ตุรกี และยูเครน ได้กดดันให้ดำเนินการตามข้อตกลงธัญพืชในทะเลดำ และตกลงในแผนการขนส่งสำหรับเรือ 16 ลำในวันจันทร์นี้เพื่อเดินหน้าต่อไป แม้จะถอนตัวจากรัสเซียแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ ผู้ซื้อจากประเทศในเอเชียที่จองสินค้าข้าวสาลีของยูเครน ได้แก่ อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าธัญพืชรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วภูมิภาคนี้จะขึ้นอยู่กับออสเตรเลียและอเมริกาเหนือ ในข้อตกลงล่าสุด ผู้ผลิตในชาวอินโดนีเซียซื้อสินค้าสี่ชิ้นหรือข้าวสาลียูเครนประมาณ 200,000 ตันสำหรับการขนส่งในเดือนพฤศจิกายนในข้อตกลงที่ลงนามในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โรงงานอาหารสัตว์เวียดนามบางแห่งที่ซื้อข้าวสาลียูเครนก็มีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาเช่นกัน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหน่วยงานรัฐบาลในปากีสถานซื้อข้าวสาลีประมาณ 385,000 ตันในการประกวดราคาที่น่าจะมาจากรัสเซียและยูเครน

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของรัสเซียคาดว่าจะสนับสนุนราคาน้ำมันพืชในตลาดโลก เนื่องจากมันคุกคามการส่งออกน้ำมันดอกทานตะวันของยูเครนไปยังจุดหมายปลายทางหลัก ซึ่งรวมถึงผู้นำเข้าน้ำมันพืชรายใหญ่ของอินเดียด้วย น้ำมันปาล์มล่วงหน้าของมาเลย์พุ่งขึ้นมากกว่า 4% ในวันจันทร์

ภายใต้ข้อตกลงซื้อขายธัญพืชโดย UN ศูนย์ประสานงานร่วม (JCC) ที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของ UN, ตุรกี, รัสเซีย และยูเครน ตกลงในการเคลื่อนย้ายเรือและตรวจสอบเรือ ข้าวโพด ข้าวสาลี ผลิตภัณฑ์จากดอกทานตะวัน ข้าวบาร์เลย์ เรพซีด และถั่วเหลืองมากกว่า 9.5 ล้านตันได้ถูกส่งออกจากทะเลดำตั้งแต่เดือนกรกฎาคม

แม้ว่าราคาสินค้าเกษตรทั่วโลกจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ราคาขายปลีกอาหารในท้องถิ่นยังคงสูงอยู่และขณะนี้ต้องเผชิญกับขาขึ้นเพิ่มเติม

ที่มา: รอยเตอร์