สำนักข่าว The Business Times รายงานเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 อ้างอิงรอยเตอร์ว่า องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (OPEC) ระบุเมื่อวันจันทร์ (15 พ.ย.) ว่า ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของดีมานด์น้ำมันทั่วโลกในปี 2565 เป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่เดือนเมษายน และยังปรับลดตัวเลขในปีหน้าด้วย โดยอ้างถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อสูงและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

โอเปก ระบุในรายงานประจำเดือนว่า อุปสงค์น้ำมันในปี 2565 จะขยายตัวขึ้นแตะ 2.55 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 2.6% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ 100,000 บาร์เรลต่อวัน 

โดยให้เหตุผลว่า “ขณะนี้โลกได้เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความไม่มั่นคงและอุปสรรคทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2565 โดยปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น นโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลาง หนี้สาธารณะที่ระดับสูงในหลายภูมิภาค ตลาดแรงงานที่ซบเซา และข้อจำกัดด้านห่วงโซ่อุปทานที่ยังคงมีอยู่”

ทั้งนี้ รายงานนี้เป็นฉบับสุดท้ายก่อน OPEC+ จะประชุมกันในวันที่ 4 ธันวาคม เพื่อกำหนดนโยบาย ในปีหน้า OPEC คาดว่า อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 2.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ 100,000 บาร์เรลต่อวัน

แม้จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้น แต่โอเปกยังคงคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2565 และ 2566 อย่างคงที่ และกล่าวว่า ในขณะที่ความเสี่ยงเบ้ไปสู่ข้อเสีย แต่ก็มีศักยภาพกลับหัวเช่นกัน

สำหรับเดือนตุลาคม ด้วยราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงจากความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอย กลุ่มได้ปรับลดเป้าหมายการผลิตของ Opec+ ลง 100,000 บาร์เรลต่อวัน โดยการลดที่มากขึ้นจะเริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน

ที่มา: The Business Time