สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งในวันนี้ (5 เม.ย.) ใกล้แตะระดับสูงที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 หลังข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่อ่อนแอลง กระตุ้นให้อุปสงค์ของสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น บวกกับการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนคลายนโยบายทางการเงินลง
ราคาซื้อขายทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% มาอยู่ที่ 2,022.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 03.55 น. ตามเวลามาตรฐานกรีนิช โดยในการซื้อขายก่อนหน้านี้ ราคาทองคำแท่งปิดตลาดที่ระดับสูงที่สุดตั้งแต่ปี 2020 ด้านสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าคงตัวที่ราคา 2,038.90 ดอลลาร์
ดัชนีสกุลเงินดอลลาร์ตกลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ทำให้ราคาทองคำแท่งถูกลงสำหรับผู้ที่ถือสกุลเงินอื่นๆ นายคลิฟฟอร์ด เบนเนต หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก ACY Securities ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำจะยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อไป เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากภาวะเงินเฟ้อที่สูง ประกอบกับการที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นอีก
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (4 เม.ย.) ราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% ทะลุระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่อ่อนแอลงชี้ให้เห็นถึงสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยรายงานชี้ให้เห็นว่า จำนวนตำแหน่งว่างงานในสหรัฐในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานในสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง ส่วนในรายงานอีกฉบับแสดงให้เห็นว่า จำนวนคำสั่งซื้อสินค้าที่ผลิตในสหรัฐลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนกุมภาพันธ์
ตามปกติแล้ว ทองคำถือเป็นเครื่องการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นลดความน่าดึงดูดของทองคำแท่งที่ไม่ให้ผลตอบแทน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นต่อโอกาสในการที่ธนาคารจะล้มอีกในอนาคต และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลง เนื่องมาจากการให้สินเชื่อและสภาวะทางการเงินที่เข้มงวดท่ามกลางสถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังคงพุ่งสูง ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นสัญญาณบวกให้กับราคาทองคำ
นักลงทุนในตลาดหุ้นหลายคนเชื่อว่า เฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก และจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงฤดูร้อนปีนี้ อย่างไรก็ดี นางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐประจำรัฐคลีฟแลนด์ กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจจะส่งสัญญาณชะลอตัวลง แต่ธนาคารกลางสหรัฐอาจยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป
ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับขึ้น 0.50% อยู่ที่ 81.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนืออยู่ที่ 85.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.54%
ที่มา: รอยเตอร์