เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า สำนักงานสถิติของเยอรมนี ระบุว่า เศรษฐกิจเยอรมนีหดตัวในไตรมาสแรกของปี 2566 เมื่อเทียบกับ 3 เดือนก่อนหน้า ส่งผลให้เข้าสู่ภาวะถดถอย
โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศลดลง 0.3% ในไตรมาสนี้เมื่อปรับตามเงินเฟ้แ และผลกระทบจากปฏิทิน ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 หลังจากหดตัว 0.5% ในไตรมาส 4/2565 โดยปกติแล้วเศรษฐกิจถดถอยหมายถึงการที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยติดต่อกัน 2 ไตรมาส
โดยการประมาณการครั้งแรก สะท้อนให้เห็นว่า GDP ชะงักงันในไตรมาสแรกและเยอรมนีก็เข้าสู่ภาวะถดถอย เมื่อเทียบรายปี GDP ลดลง 0.5% เมื่อปรับตามราคาและผลกระทบจากปฏิทิน
Andreas Scheuerle นักวิเคราะห์จาก DekaBank กล่าวว่า “ภายใต้น้ำหนักของเงินเฟ้อจำนวนมหาศาล ผู้บริโภคชาวเยอรมันทรุดตัวลง ลากเศรษฐกิจทั้งหมดลงไปสู่ภาวะถดถอย”
ขณะที่ การบริโภคภาคครัวเรือนลดลง 1.2% ไตรมาสต่อไตรมาส หลังจากการปรับราคา ฤดูกาล และปฏิทิน การใช้จ่ายของรัฐบาลก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน 4.9% ในไตรมาสนี้
Carsten Brzeski หัวหน้าฝ่ายมหภาคระดับโลกของ ING กล่าวว่า ในทางตรงกันข้าม การลงทุนเพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนแรกของปี หลังจากครึ่งปีหลังของปี 2565 ที่อ่อนแอ การลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์เพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่ การลงทุนในการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 3.9% ในไตรมาสนี้ นอกจากนี้ยังมีผลงานเชิงบวกจากการค้า การส่งออกเพิ่มขึ้น 0.4% ในขณะที่การนำเข้าลดลง 0.9%
Joerg Kraemer หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Commerzbank กล่าวว่า “ราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาลได้ส่งผลกระทบต่อช่วงครึ่งปีฤดูหนาว ไม่สามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ และตอนนี้คำถาม คือ จะมีการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังหรือไม่”
อย่างไรก็ตาม Bundesbank ของเยอรมัน คาดว่า เศรษฐกิจจะเติบโตในระดับปานกลางในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมมากกว่าที่จะชดเชยการบริโภคในครัวเรือนที่ซบเซาและการก่อสร้างที่ตกต่ำตามรายงานเศรษฐกิจรายเดือนที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ
ที่มา: รอยเตอร์