By…พริ้มพัชร จิรบวรพงศา
BF Knowledge Center
เมื่อตอนที่แล้วเราได้พูดถึงการลงทุนเพื่อวัยเกษียณที่สามารถรับสิทธิลดหย่อนภาษีได้มีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันชีวิตแบบบำนาญ และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
แต่ก็มักจะพบว่ากองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF มักถูกมองข้ามจากผู้ลงทุน เพราะส่วนใหญ่หวั่นใจกับเงื่อนไขการลงทุนระยะยาว ผู้ลงทุนมักคิดว่าอีกตั้งนานกว่าจะเกษียณ (ลงทุนล่วงหน้า 10-20 ปี กว่าจะขายคืนได้ก็นานเกิน) แต่อยากให้ฉุกคิดว่า “เป้าหมายหลักที่ทุกคนต้องการ” คืออะไร ลืมไปรึเปล่าว่า ที่ต้องการคือมีคุณภาพชีวิตที่ดี และแน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากไม่มีเงินใช้ในวัยเกษียณ ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การเริ่มต้นลงมือทำตั้งแต่เนิ่นๆ ทุกคนสามารถมีเงินลงทุนสะสมหลักล้านได้ง่ายกว่าเพียงเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ และย่อมดีกว่าไปเริ่มต้นลงมือทำตอนที่อายุมากแล้ว
โดยกองทุนรวม RMF เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้ทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมายการลงทุนเพื่อวัยเกษียณได้ไม่ยาก แม้จะมีเงื่อนไขหลายประการ แต่ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร จึงจะยกตัวอย่างให้เห็นเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้ง่ายและเข้าใจตรงกัน
1.) การลงทุนในกองทุนรวม RMF นอกจากจะต้องคำนวณสิทธิในการซื้อต่อปี คือ ขั้นต่ำ 3% ของเงินได้พึงประเมินหรือ 5,000 บาท และ สูงสุด 15% ของเงินได้พึงประเมินแต่ไม่เกิน 500,000 บาทแล้ว ผู้ลงทุนยังต้องมีวินัยในการลงทุนต่อเนื่องทุกปี
- สมมุติเรามีเงินได้พึงประเมินในปีนี้ 1,000,000 บาท ต้องการลดหย่อนภาษีจึงลงทุนตามสิทธิสูงสุดคือ 1,000,000 x 15% = 150,000 บาท ในปีถัดไปสมมติว่าเรามีเงินได้พึงประเมินเท่าเดิม แต่อาจไม่สะดวกที่จะลงทุนเท่าปีก่อน ก็สามารถลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท เพื่อเป็นการรักษาสิทธิการลงทุนในกองทุนรวม RMF ในปีนั้นก็ได้ ซึ่งหากนำมาเฉลี่ยรายเดือนก็เท่ากับเดือนละประมาณ 417 บาทเท่านั้น ดังนั้น การลงทุนในกองทุนรวม RMF จึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับทุกคน หากผู้ลงทุนเลือกทยอยลงทุนรายเดือนสะสมไปเรื่อยๆ ปีไหนมีเงินเพิ่มเติมก็ลงทุนเพิ่มได้
2.) สำหรับการขายคืนหน่วยลงทุนแบบถูกเงื่อนไขได้รับสิทธิยกเว้นภาษี สำหรับกองทุนรวม RMF เริ่มต้นอธิบายทีไรผู้ลงทุนตั้งหลักงงเอาไว้ก่อน ในวันนี้ขอให้ตั้งสติให้มั่นและมาทำความเข้าใจคาถา 55-5-5 ไปพร้อมๆ กันอย่างอารมณ์ดี
- โดยก่อนอื่นให้ทำความเข้าใจก่อนว่า 55 คือ อายุ 55 ปี การขายคืนกองทุนรวม RMF แบบถูกเงื่อนไข ผู้ลงทุนต้องมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ตามบัตรประชาชน หากขายคืนก่อนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ จะถือว่าผิดเงื่อนไข กำไรส่วนเกินจากการลงทุน (Capital Gain) ทั้งหมดจะต้องนำไปเสียภาษีเงินได้ในมาตรา 40(8) …ก็นับว่าจบเห่กันไป
- 5 ถัดมา คือต้องมีการลงทุนต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปีลงทุน กล่าวคือ สมมติว่าจะเริ่มต้นลงทุนในปี 61 นี้ (นับเป็นปีลงทุนที่ 1) ผู้ลงทุนจะต้องลงทุนต่อไปในปี 62 (ปีลงทุนที่ 2) ปี 63 (ปีลงทุนที่ 3) …. ต่อเนื่องไปจนถึงปี 65 (ปีลงทุนที่ 5) แต่เอ๊ะๆ เคยมีผู้ลงทุนถามมาว่า ตอนนี้ตัวเองเริ่มต้นลงทุนกองทุนรวม RMF ตอนอายุ 53 ปี ต่อเนื่องมาจนตอนนี้อายุ 55 ปีแล้วจะทำการขายคืนแบบถูกเงื่อนไขเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้ ได้หรือไม่? คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะยังไม่เข้าเงื่อนไขใน 5 นี้ คือ ลงทุนไม่ต่อเนื่อง 5 ปี ทางออกสำหรับผู้ลงทุนรายนี้คือ ลงทุนต่ออีก 5 ปี โดยอาจเลือกลงทุนขั้นต่ำเพื่อเป็นการรักษาสิทธิ
- 5 สุดท้าย คือ ถือครองกองทุนรวม RMF อย่างน้อย 5 ปีนับแบบวันชนวัน โดยจะนับวันที่เริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวม RMF ครั้งแรกเสมือนเป็นวันเกิด เช่น วันที่ 9 พ.ค.61 เป็นวันเริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวม RMF ครั้งแรก วันที่ 9 พ.ค.62 ก็จะนับเป็นปีถือครองที่ 1 (อายุครบ 1 ขวบก็เป่าเค้กให้ 1 ปี แต่หากปีไหนไม่มีการซื้อกองทุนรวม RMF ก็จะเหมือนว่าปีนั้นลืมซื้อเค้กมาเป่า เท่ากับว่าไม่ได้นับอายุการถือครองในปีนั้น) กล่าวคือ หากผู้ลงทุนต้องการขายคืนหน่วยลงทุนอย่างถูกเงื่อนไขจะต้องปฏิบัติตามคาถาครบทั้ง 3 ข้อ 55-5-5 ก็จะสามารถขายคืนไป หัวเราะไปด้วยได้เพราะกำไรส่วนเกินที่ได้รับจากการลงทุนทั้งหมดยกเว้นภาษีเงินได้
คุยกันมาถึงตรงนี้แล้ว… ผู้ลงทุนคงสงสัยว่า หากมีความจำเป็นจริงๆ ที่ต้องขายคืนกองทุนรวม RMF ก่อนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์นี่จะสามารถทำได้ไหม? ก็แหมมมม… มันนานซะขนาดนี้ ตอบตรงนี้เลยว่า “ได้” โดยแบ่งออกเป็น 2 กรณีดังนี้
- กรณีแรก ลงทุนต่อเนื่องน้อยกว่า 5 ปีลงทุน ผู้ลงทุนจะต้องคืนเงินที่ได้รับการลดหย่อนภาษีให้กับสรรพากรทั้งหมด และ หากมีกำไรส่วนเกินที่ได้รับจากการขายคืน (Capital Gain) จะต้องนำไปรวมเป็นเงินได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษีเงินได้ โดยจัดเป็นเงินได้ในมาตรา 40(8) แต่หากขายคืนแล้วขาดทุนก็ไม่ต้องทำอะไรในส่วนนี้ เพียงแค่คืนเงินที่ได้รับการลดหย่อนภาษีให้กับสรรพากรเท่านั้น ทั้งนี้ การคืนเงินภาษีให้สรรพากร รวมถึงการเสียภาษีจากกำไรส่วนเกินทุนให้ทำภายในปีภาษีที่ผิดเงื่อนไขนั้น เช่น ขายคืนผิดเงื่อนไขในปี 61 ให้ยื่นเรื่องพร้อมการเสียภาษีปกติของปี 61 (ภายใน มี.ค.62)
- กรณีที่สอง ลงทุนต่อเนื่องมากกว่า 5 ปีลงทุน ผู้ลงทุนจะต้องคืนเงินที่ได้รับการลดหย่อนภาษีให้กับสรรพากร 5 ปีย้อนหลัง (5 ปีใกล้เท่านั้น) สำหรับเงินลดหย่อนที่ได้รับคืนจากสรรพากรก่อนหน้านี้ รวมถึงกำไรส่วนเกินที่ได้รับจากการขายคืน (Capital Gain) ทั้งหมดจะไม่ถูกนับเป็นเงินได้พึงประเมินเพื่อเสียภาษี
รู้ครบถ้วน และเข้าใจเงื่อนไขการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพแบบนี้แล้ว ครั้งหน้าเมื่อนึกถึงการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ หวังว่ากองทุนรวม RMF จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการลงทุนของทุกท่าน