ไตรมาสแรกปีนี้ บจ.ไทยกำไรสุทธิ 2.86 แสนล้านบาท

ไตรมาสแรกปีนี้ บจ.ไทยกำไรสุทธิ 2.86 แสนล้านบาท

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) เปิดเผยว่า ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) งวดไตรมาส 1 ปี 2018 มีกำไรสุทธิ 449 บริษัท คิดเป็น 82.45% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด โดยมีกำไรสุทธิรวม 2.86 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาสที่ 1/2017 เป็นไตรมาสที่ บจ. มีผลประกอบการสูงสุดในปีที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 29% ของกำไรทั้งปี 2017) อย่างไรกตามหากไปเทียบกับไตรมาส 4/2017 กำไรเพิ่มขึ้นถึง 15.55%

สำหรับไตรมาส 1/2561 ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น อัตราแลกเปลี่ยนที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 23.72% ลดลงเล็กน้อยจาก 24.33% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ในแง่ยอดขายรวมบริษัทจดทะบียนไตรมาสแรก อยู่ที่ 2.83 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.61%
ขณะที่ ผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในภาพรวมดีขึ้น ไตรมาสแรกปีนี้ บจ. mai มีกำไรสุทธิ 1.81 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 69.56% จากไตรมาส 4/2017

นางเกศรา กล่าวว่า ไตรมาสแรกปีนี้ บจ. ไทยมียอดขายสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและราคาน้ำมันดิบซึ่งสูงขึ้นราว 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่การผันผวนของราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลกระทบทางลบต่อ บจ. ที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ซึ่งกระจายตัวอยู่ในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และหมวดวัสดุก่อสร้าง ขณะที่การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีมีส่วนทำให้ บจ. ได้รับผลกระทบด้านความสามารถในการทำกำไร และต้องปรับตัวในการบริหารกิจการมากขึ้นในระยะต่อไป ฃ

ทั้งนี้ บจ. ใน SET นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 จำนวน 544 บริษัท (ณ 16 พ.ค. 2018) หรือคิดเป็น 93.79% จาก 580 บริษัท (รวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และบริษัทที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด หรือ NPG)