“Shou Zi Chew” CEO ยักษ์โซเชียลแพลตฟอร์ม วีดิโอสั้น “TikTok” ประกาศทุ่มเม็ดเงินลงทุนหลายพันล้านเหรียญ สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสริมทัพธุรกิจ “อีคอมเมิร์ซ” พร้อมสู้เจ้าตลาด Lazada-shopee
วันที่ 15 มิถุนายน 2566 นายโจวโซ่วจือ (Shou Zi Chew) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ “TikTok” กล่าวในงาน “TikTok Southeast Asia Impact Forum 2023” ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ว่า TikTok จะทุ่มเงินลงทุนหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ ในอินโดนีเซียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางกว่า 120,000 ราย
“ความสำเร็จของผู้ใช้งานที่เปิดร้านค้าบน “TikTok Shop” เน้นย้ำถึงเป้าหมายทางธุรกิจของเรา นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมยินดีจะประกาศว่า เราจะลงทุนเงินจำนวนหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ ในอินโดนีเซียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางกว่า 120,000 ราย”
นายโจว ยกตัวอย่าง 3 แนวทางการสนับสนุนผู้ประกอบการในท้องถิ่นตามโครงการส่งเสริมธุรกิจของ TikTok ดังนี้
1. จัดการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลในอินโดนีเซีย
2. ขยายการเข้าถึงการศึกษาและสร้างความคิดริเริ่มในการพัฒนาตนเอง เช่น โครงการสร้างการรับรู้ด้านสิ่งแวดล้อมในไทย
3. ขับเคลื่อนผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรคนสำคัญอย่าง “ASEAN Foundation”
นอกจากนี้ รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีประชากรรวมกัน 6.3 ร้อยล้านคน เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ TikTok ในแง่ของจำนวนผู้ใช้งาน โดยมีสถิติผู้เข้าชมแอปพลิเคชันมากกว่า 3.2 ล้านคนทุกเดือน
แม้ว่า TikTok จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถแปลงฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ให้เป็นแหล่งรายได้อีคอมเมิร์ซที่สำคัญในภูมิภาคได้ เนื่องจากต้องเผชิญกับการแข่งขันจากคู่แข่งรายใหญ่อย่าง “ช้อปปี้” (Shopee) และ “ลาซาด้า” (Lazada)
ปัจจุบัน TikTok มีพนักงาน 8,000 คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในอินโดนีเซียที่เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาค มีผู้ประกอบการรายย่อยประมาณ 2 ล้านรายที่ขายสินค้าบน TikTok
รอยเตอร์ อ้างอิงรายงานของ “โมเมนตัม เวิร์คส์” (Momentum Works) บริษัทให้คำปรึกษาทางธุรกิจในสิงคโปร์ว่า ในปี 2565 TikTok สร้างมูลค่าการซื้อ-ขายทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 600 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2564 แต่ยังตามหลังยอดขายสินค้าระดับภูมิภาคในปี 2565 ของช้อปปี้อยู่มาก โดยยอดขายของช้อปปี้อยู่ที่ 4.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ แผนการลงทุนของ TikTok เกิดขึ้นในขณะที่ “ไบท์แดนซ์” (ByteDance) บริษัทแม่ในจีนต้องเผชิญกับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลบางประเทศ เนื่องจากความกังวลว่า จีนอาจใช้แอปดูดข้อมูลของผู้ใช้งาน
ที่มา: รอยเตอร์