ภาพรวมตลาดหุ้น
• ตลาดหุ้นอินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี ผลตอบแทน ในปีนี้ ตั้งแต่พฤษภาคม หุ้นขนาดกลางและเล็กเริ่ม มีผลการดำเนินงานที่ดีตามหุ้นใหญ่ หลังจากที่หุ้นใหญ่ปรับตัว เพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี
• อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ธนาคารกลางอินเดีย ควบคุมได้ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากราคาอาหารโลกเพิ่มขึ้น โดย อัตราเงินเฟ้อ เดือนมิถุนายน อยู่ที่ 4.81%
• IMF ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของ GDP ของอินเดีย โดยมองว่า ทั้งปี อินเดีย น่าจะอยู่ที่ 6.1% เพิ่มขึ้น 0.2% จากที่เคยประมาณไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จากการเพิ่มขึ้นของการลงทุนภายในประเทศมีมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
• หลังจากที่นักลงทุนต่างชาติ ขายทำกำไรในหุ้นอินเดีย ในปีที่แล้ว เงินลงทุนจากต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาในตลาดหุ้นอินเดียตั้งแต่มีนาคมปีนี้ และเพิ่มมามีนัยสำคัญ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึง เดือนล่าสุด (กรกฏาคม)

พอร์ตการลงทุน
• กองทุนให้น้ำหนัก กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย การเงิน เฮลธ์แคร์ และ อุตสาหกรรม มากกว่าดัชนีชี้วัด
• กองทุนได้รับผลบวกในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยเฉพาะในกลุ่มเฮลธ์แคร์ อุตสาหกรรมและสินค้าฟุ่มเฟือย
• ผู้จัดการกองทุน เพิ่มสัดส่วนในกลุ่มการเงิน สาธารณูปโภค เทคโนโลยี และอุตสาหกรรม โดยได้เพิ่มน้ำหนักในหุ้นยานยนต์ขนาดใหญ่ที่มีสัดส่วนในตลาดโลก และหุ้นที่เกี่ยวกับการผลิตพลังงาน รวมถึงพลังงานสะอาด เนื่องจากในประเทศมีความขาดแคลนพลังงานอยู่ และหุ้นแพลตฟอร์ม การส่งอาหาร รวมทั้งหุ้นในกลุ่ มการเงิน ด้วย
• นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุน ขายทำกำไร ในหุ้นยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เนื่องจากราคาขึ้นมาถึงเป้าหมายแล้ว และลดน้ำหนักในหุ้นเคมีภัณฑ์ที่มีผลประกอบการอ่อนแอลง
• ตัวอย่างหุ้นที่กองทุนลงทุน เช่น
o Varun Beverages ผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ของประเทศ และเป็นผู้ทำบรรจุขวด ของ PepsiCo ที่ใหญ่เป็นอันดับ สองของโลกที่อยู่นอกสหรัฐฯ นอกเหนือจากผลิต ภัณฑ์ของ PepsiCo แล้ว ยังมีน้ำผลไม้ แบรนด์ Tropicana และ Aquafina ด้วย ซึ่งบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายในอินเดีย เนปาล ศรีลังกา และโมร๊อกโค ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี +33% (ณ 23 สิงหาคม 2566)

o หุ้น Tejas Network บริษัท ออกแบบ พัฒนา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครือข่ายประสิทธิภาพสูงให้แก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการสาธารณูปโภค หน่วยงานป้องกันประเทศ และหน่วยงานรัฐในกว่า 75 ประเทศ Tejas ใช้สถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์ที่ควบคุมด้วยซอฟต์แวร์และตั้งโปรแกรม ที่รองรับการอัปเกรดฟีเจอร์และ เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น +40% ตั้งแต่ ต้นปี (ณ 23 สิงหาคม 2566)

มุมมองในอนาคต
• ผู้จัดการกองทุนคาดว่า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 17.8% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
• สิ่งที่เป็นปัจจัยที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด คือ การเติบโตของเศรษฐกิจโลก และประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งอาจจะกระทบต่อบริษัทและตลาดหุ้นอินเดีย ทั้งนี้ กลุ่มส่งออกจะเป็นกลุ่มที่เปราะบาง จากเศรษฐกิจโลกมากที่สุด

Disclaimer: เอกสารนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ และบริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุน ในกองทุน RMF/SSF ก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่ง ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

เอกสารนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มิได้มีวัตถุประสงค์ชักชวน ชี้นำ ให้ความเห็น หรือคำแนะนาในการตัดสินใจลงทุนทางการเงิน หรือการตัดสินใจในทางธุรกิจแต่อย่างใด ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังและวิจารณญาณจากการใช้ข้อมูลบางส่วน หรือทั้งหมดของเอกสารฉบับนี้