มูดีส์ (Moody’s) ปรับลดมุมมองต่ออันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ลงสู่ “เชิงลบ” จากเดิมที่ “มีเสถียรภาพ” โดยอ้างถึงการขาดดุลทางการคลังที่มากมายและการลดลงของความสามารถในการชำระคืนหนี้สิน ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่เรียกกระแสวิพากษ์วิจารณ์โดยทันทีจากฝ่ายบริหารของรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน
การขยับดังกล่าวของมูดีส์เป็นผลมาจากการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ โดยอีกหนึ่งสถาบันจัดอันดับเรตติ้งที่ชื่อ ฟิทช์ (Fitch) ในปีนี้ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากหลายเดือนที่เกิดวิกฤตทางการเมืองเกี่ยวกับเพดานหนี้ของสหรัฐฯ โดยการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และการแบ่งขั้วทางการเมืองก่อให้เกิดความกังวลต่อนักลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น มีส่วนช่วยให้เกิดการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยกดให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 16 ปี
คริสโตเฟอร์ ฮอดจ์ (Christopher Hodge) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านสหรัฐอเมริกาของบริษัท Natixis กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องยากที่จะไม่เห็นด้วยกับคำชี้แจงเหตุผล ด้วยความคาดหวังที่ไม่มีเหตุผลสำหรับการทำให้การคลังของสหรัฐฯ แข็งแรงขึ้นในเร็วๆ นี้” “ยอดขาดดุลทางการคลังยังคงมหาศาล และเนื่องจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยมีสัดส่วนที่สูงมากขึ้นในงบประมาณ ทำให้ภาระหนี้สินจะยังเติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
มูดีส์ กล่าวในคำแถลงว่า “การแบ่งขั้วทางการเมืองที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง” ในสภาคองเกรสจะเพิ่มความเสี่ยงที่สมาชิกสภาคองเกรสจะไม่สามารถบรรลุฉันทามติหรือเสียงส่วนมากต่อแผนการด้านการคลังที่จะชะลอการลดลงของความสามารถในการชำระคืนหนี้ของรัฐบาล”
วิลเลียม โฟสเตอร์ (William Foster) ผู้อำนวยการอาวุโสของมูดีส์ (Moody’s) กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “การตอบสนองทางนโยบายใด ๆ ที่มีนัยสำคัญที่เราอาจจะได้เห็นต่อความเข้มแข็งทางการคลังที่กำลังลดลงนั้น อาจจะไม่เกิดขึ้นจนถึงปี 2568 เนื่องจากความเป็นจริงของปฏิทินทางการเมืองในปีหน้า”
สมาชิกพรรครีพับลิกัน ซึ่งครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาล่างหรือสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ คาดว่าจะมีการออกมาตรการชั่วคราวด้านการใช้จ่ายในวันเสาร์ (11 พ.ย.) โดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปิดสำนักงานของรัฐบาลบางส่วน โดยการให้หน่วยงานของรัฐบาลยังคงเปิดทำการเมื่อเงินทุน ณ ปัจจุบันของรัฐบาลจะหมดลงในวันศุกร์นี้
มูดีส์เป็นสถาบันจัดอันดับเครดิตเรตติ้งรายล่าสุดจากสถาบันหลักทั้งหมด 3 แห่งที่ยังคงจัดอันดับเครดิตของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ระดับสูงสุด โดยฟิทช์ (Fitch) ได้ปรับลดเรตติ้งของรัฐบาลสหรัฐฯ ลงจาก AAA- มาเป็น AA+ ในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นเครดิตเรตติ้งเดียวกันกับเอสแอนด์พี (S&P) ที่ได้ให้อันดับเรตติ้งของรัฐบาลสหรัฐฯ ไว้ที่ AA+ ตั้งแต่ปี 2554
ขณะที่ มูดีส์ปรับเปลี่ยนมุมมอง โดยระบุว่าการปรับลดเรตติ้งจะมีความเป็นไปได้ในระยะกลาง โดยมูดีส์ยืนยันถึงอันดับเครดิตของผู้ออกตราสารหนี้ระยะยาว และตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ Aaa’ โดยอ้างถึงความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐฯ
ที่มา: รอยเตอร์