ข้อมูลล่าสุดเปิดเผยในวันนี้ (26 มี.ค.) ว่า ฝรั่งเศสประสบปัญหาขาดดุลงบประมาณภาครัฐเพิ่มขึ้นเมื่อปีที่แล้วมากกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ ซึ่งสร้างแรงกดดันให้รัฐบาลในการพยายามรักษาแผนลดการขาดดุลให้เป็นไปตามแนวทางที่วางไว้
สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (INSEE) ระบุว่า งบประมาณภาครัฐประจำปี 2566 แสดงให้เห็นว่าการขาดดุลทางการคลังอยู่ที่ 5.5% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจ สูงขึ้นจากระดับ 4.8% ในปี 2565 และมากกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 4.9% อย่างมีนัยสำคัญ
นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฝรั่งเศส กล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ส่งผลให้รายได้จากภาษีลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการขาดดุลที่เพิ่มขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะเตือนล่วงหน้าแล้วว่า การขาดดุลจะเป็นไปในทิศทางที่แย่กว่าที่คาดไว้ แต่ก็ยังคงเป็นข่าวร้ายอยู่ดี เพราะนี่หมายความว่า ฝรั่งเศสจะต้องหาทางประหยัดงบประมาณเพิ่มเติมในปีนี้ เพื่อให้สามารถรักษาเป้าหมายการขาดดุลที่ 4.1% ในปี 2567
รัฐบาลฝรั่งเศสได้ประกาศแผนการตัดงบประมาณเพิ่มเติมอีก 1 หมื่นล้านยูโร (1.09 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) แล้วในปีนี้ และระบุว่า อาจจะต้องมีการออกกฎหมายในช่วงกลางปีเพื่อหาทางประหยัดงบประมาณเพิ่มเติม
“ผมเรียกร้องให้เราทุกคนตื่นตัวและร่วมกันตัดสินใจในการใช้จ่ายภาครัฐทั้งหมด” นายเลอ แมร์ กล่าวกับสถานีวิทยุ RTL
นายเลอ แมร์ ยังย้ำว่า มีความมุ่งมั่นที่จะลดการขาดดุลให้ต่ำกว่าเกณฑ์ 3% ของสหภาพยุโรปภายในปี 2570 และยืนยันว่าจะไม่เพิ่มภาษี
ทั้งนี้ องค์กรจัดอันดับเครดิตจะออกข้อมูลอัปเดตในเดือนเม.ย.และพ.ค.นี้
นอกจากนี้ INSEE ยังระบุอีกว่า หนี้สาธารณะของฝรั่งเศสอยู่ที่ 110.6% ของ GDP ในช่วงปลายไตรมาส 4 ของปี 2566 ลดลงเล็กน้อยจาก 111.9% ในช่วงปลายไตรมาส 4 ของปี 2565
ที่มา: รอยเตอร์